ดีมานด์ไทย-เทศ อั้น หนุนโอกาส 'ตลาดวิลล่า' ภูเก็ต ฟื้นตัว

05 พ.ค. 2564 | 13:37 น.

ซีบีอาร์อี เผย ความต้องการสะสม ของคนไทยและต่างชาติ รอขับเคลื่อน ตลาดวิลล่า ระดับราคา 90 ล้านบาทขึ้นไป ในจังหวัด ภูเก็ต มีโอกาสฟื้นตัวในปี 2564 ขณะนโยบายรัฐ คือ ใบเบิกทาง

5 พฤษภาคม 2564 – แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังคงซบเซาเนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด -19 ระลอกที่ 3 ในประเทศไทย แต่ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก พบว่ามีตลาดที่ยังมีความเคลื่อนไหวของการซื้อขายอยู่โดยกลุ่มลูกค้าระดับบน สอบถามเข้ามาเกี่ยวกับวิลล่าหรูเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2563 เป็นต้นมา โดยมาจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ  

ทั้งนี้ เพราะซัพพลายของวิลล่าระดับบนยังคงมีจำนวนจำกัด จากการชะลอเปิดโครงการใหม่ของผู้ประกอบการและที่ดินที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาวิลล่าหรูเหลืออยู่ไม่มาก    นอกจากนี้ มาตรการล่าสุดของรัฐบาลสำหรับโครงการนำร่อง ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ซึ่งจะเริ่มเดือนกรกฎาคมนี้ อาจจะมีบทบาทสำคัญในการทำให้ภูเก็ตฟื้นตัวได้ภายในสิ้นปี 2564

ดีมานด์ไทย-เทศ อั้น หนุนโอกาส \'ตลาดวิลล่า\' ภูเก็ต ฟื้นตัว

 
นางสาวประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายบ้านพักตากอากาศ ซีบีอาร์อี ภูเก็ต กล่าวว่า “ความต้องการวิลล่าระดับหรูที่เพิ่มขึ้นมานั้นมาจาก 2 ส่วนหลัก  กลุ่มแรกคือผู้ซื้อในต่างประเทศที่มีกำลังซื้อสูง เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ ที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สอง หรือบ้านพักในวัยเกษียณ ในพื้นที่เขตร้อนหลังการแพร่ระบาดจบลง โดยลูกค้ากลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีความคุ้นเคยกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและตลาดภูเก็ตอยู่แล้ว  
 

ส่วนกลุ่มที่สอง คือ ผู้ซื้อในประเทศที่เป็นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่กำลังมองหาบ้านพักตากอากาศหรูทั้งเพื่อการเข้าพักอาศัยเองและเพื่อการลงทุน    จากการที่ตลาดภูเก็ตเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงเวลาของการเป็นตลาดของผู้ซื้ออย่างไม่ได้คาดคิดได้กระตุ้นให้กลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (High Net Worth Individuals - HNWIs) เหล่านี้มองหาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวที่มีความคุ้มค่า  ซึ่งภูเก็ตเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมาตลอดหลายสิบปี”

ดีมานด์ไทย-เทศ อั้น หนุนโอกาส \'ตลาดวิลล่า\' ภูเก็ต ฟื้นตัว

แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี รายงานว่า จากการประกาศเคอร์ฟิวและข้อกำหนดอื่นๆ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ทำให้โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างบางส่วนได้รับผลกระทบ  โดยมีวิลล่าเพียง 5 หลังเท่านั้นที่แล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ทำให้วิลล่าในตลาดภูเก็ตมีทั้งสิ้นเกือบ 4,300 หลัง    

สำหรับตลาดวิลล่าหรูซึ่งมีราคามากกว่า 90 ล้านบาทต่อหลังนั้น แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 4 ปี 2563 มีวิลล่าหรูทั้งหมด 320 หลัง โดยในปี 2564 จะมีเพียง 7 หลังที่จะแล้วเสร็จ และไม่มีซัพลลายใหม่ในปี 2565   ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ซัพพลายของวิลล่าหรูในภูเก็ตจะมีจำนวนจำกัดอย่างมากในช่วงอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ และที่ดินในภูเก็ตที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาเป็นวิลล่าหรูระดับบนสุดของตลาดกำลังกลายเป็นสิ่งที่หาได้ยาก  

 “ภูเก็ตยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของไทยทั้งสำหรับการท่องเที่ยวและสำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านพักตากอากาศ เนื่องจากตลาดวิลล่าในไทยสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของทุกคนได้ โดยขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการเรื่องทำเลที่ตั้งของแต่ละคน   
 

ซีบีอาร์อีเชื่อว่าหากนักท่องเที่ยวเดินทางกลับเข้ามาจากมาตรการความช่วยเหลือของภาครัฐ ที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเดินทางมายังภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว ควบคู่ไปกับการกระจายวัคซีนที่มีผลสำเร็จ และการทำงานหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การระบาดระลอกที่สามอยู่ในระดับที่ควบคุมได้  

ดีมานด์ไทย-เทศ อั้น หนุนโอกาส \'ตลาดวิลล่า\' ภูเก็ต ฟื้นตัว

ตลาดวิลล่าหรูในภูเก็ตก็จะเริ่มฟื้นตัวได้ภายในสิ้นปีนี้  ซึ่งในด้านหนึ่งก็ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ซื้อที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สองหรืออสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้   เพราะในปัจจุบันในตลาดวิลล่าภูเก็ตยังมีซัพพลายที่ดี มีราคาที่ยืดหยุ่น และมีตัวเลือกที่หลากหลาย ซึ่งอาจหาไม่ได้เมื่อสถานการณ์ตลาดกลับสู่สภาวะปกติ” นางสาวประกายเพชรกล่าวสรุป '