"นิปปอนเพนต์" เข็นนวัตกรรมสี ลุยอุตสาหกรรมก่อสร้าง ร่วง 10-15%

09 ต.ค. 2563 | 17:15 น.

นิปปอนเพนต์ เข็นนวัตกรรมสี ลุยจัดงานNippon Paint InnoSolution 2020 มั่นใจอุตสาหกรรมก่อสร้างปีหน้าฟื้นตัว หลังปีนี้ วิกฤติโควิด-19 ฉุดภาพรวมตลาดลดลงราว 10-15%

9 ตุลาคม 2563 - นายวัชระ ศิริฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ เดคโคเรทีฟ โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสีรายใหญ่เบอร์ 1 ของเอเชีย คาดการณ์ว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมการก่อสร้างในปี 2563 จะลดลง 10-15% เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเกิดการล็อกดาวน์ ส่งผลต่อธุรกิจทั่วโลก รวมถึงกำลังซื้อที่ลดลง ทำให้ธุรกิจก่อสร้างอยู่ในช่วงชะลอตัว 

ขณะปีหน้า คาดว่าสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายและกลับมาฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม นิปปอนเพนต์ยังมีการเติบโตไปในทิศทางที่ดีตามเป้าหมายที่วางไว้ คาดว่าเติบโตเพิ่มขึ้นระดับเลขสองหลักจากปีก่อน ขณะที่ตลาดรวมสีและวัสดุเคลือบผิวโดยรวมมีมูลค่าราว 25,000 ล้านบาท โดยการเติบโตของบริษัทฯ นับจากนี้ไป จะเป็นการเติบโตจากการนำเสนอโซลูชันใหม่ๆ ตอบโจทย์ในทุกความต้องการของลูกค้า 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ในประเทศไทย กำลังเผชิญกับปัญหาต่างๆ ทั้งการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะเฉพาะด้าน การได้งานที่มีคุณภาพทั้งงานสี วัสดุก่อสร้าง ขณะเดียวกันประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ทำให้อุตสาหกรรมก่อสร้างจำเป็นต้องหาแรงงานรุ่นใหม่มาทดแทน เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพ สวยงามทนทาน ไร้ปัญหา และส่งมอบงานได้ตามกำหนดเวลา บริหารงบประมาณมีประสิทธิภาพ และบ่งบอกถึงความเป็นมืออาชีพ การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไขปัญหาแน่นอน ซึ่งปัญหาอาจมีหลายด้าน ทั้งคุณภาพ ต้นทุน และเวลาการทำงาน ดังนั้นการเลือกใช้ระบบสีคุณภาพสูง Professional Series จะช่วยลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้
 

ทั้งนี้ ล่าสุด บริษัท ได้จัดงาน Nippon Paint InnoSolution 2020 งานแสดงสุดยอดนวัตกรรมระบบสีคุณภาพสูง Professional Series ในวันนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอโซลูชันใหม่ๆ  เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับอุตสาหกรรมก่อสร้างเมืองไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการโครงการ อาทิ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์, เจ้าของอาคาร, สถาปนิกและนักออกแบบ, ผู้รับเหมาก่อสร้าง รวมถึงช่างสี เป็นต้น ซึ่งระบบสีคุณภาพสูงProfessional Series ช่วยยกระดับการทำงานของมืออาชีพ ให้ได้งานที่มีคุณภาพ การทำงานที่รวดเร็วขึ้น และลดต้นทุนการผลิต 

โดยภายในงานได้นำเสนอนวัตกรรมระบบสีคุณภาพสูง ภายใต้แนวคิด Innovative Living Solution เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ผ่านระบบการทำงานอย่างมืออาชีพ หรือ Professional Series อีกทั้งยังสอดรับกับการก้าวสู่วิถีใหม่ New Normal ของอุตสาหกรรมก่อสร้าง หลังจากที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อวิถีการใช้ชีวิต ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อ รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก สำหรับหัวใจสำคัญของ Professional Series นี้ ประการแรกคือ การจบงานได้เร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการโดยเฉพาะสถานการณ์ในยุค New Normal ณ เวลานี้  ประการต่อมาคือ การมีโซลูชัน หรือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์จะช่วยทำให้งานมีคุณภาพ อีกทั้งควบคุมคุณภาพของงานได้ง่ายขึ้น เพราะนวัตกรรมนี้สามารถช่วยลดข้อผิดพลาดของงาน และยังได้งานที่ปราณีตส่งงานได้ทันเวลาอีกด้วย และประการสุดท้ายคือ การบริหารจัดการทั้งด้านเวลาในการทำงานของแต่ละโครงการและควบคุมต้นทุนทั้งค่าแรง และค่าสีได้เป็นอย่างดี 

นิปปอนเพนต์ ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรม เพื่อส่งเสริมการทำงานอย่างมืออาชีพ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อทั้งผู้ประกอบการ ผู้บริโภคและสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะผู้ประกอบการโครงการ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลสำคัญต่อการใช้ชีวิตของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ต้องพัฒนา สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ทันสมัยตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค นิปปอนเพนต์ไม่เคยหยุดคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับทั้งด้านการทำงานและคุณภาพชีวิต ให้ดีขึ้นตลอดเวลา”

ภายในงาน  Nippon Paint InnoSolution 2020 ได้นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีส่งเสริมการทำงานอย่างมืออาชีพ โดยผนึกกำลังกับ 3 พันธมิตรชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็น

1.      เทอร์ราโก้ (Terraco)   ผู้นำด้านวัสดุตกแต่งพื้นผิว ด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากประเทศสวีเดน ซึ่งผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ ตอบโจทย์การออกแบบ การตกแต่งพื้นผิวที่มีความหลากหลายซับซ้อน และเป็นผู้ผลิตรายเดียวที่ไม่ใช้ตัวทำละลายสูตรน้ำมัน ทำให้มั่นใจในผลิตภัณฑ์ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม

2.      เกรโก้ (Graco)  ผู้นำด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องพ่นสีอันดับหนึ่งของโลก จากประเทศสหรัฐอเมริกา ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเกรโก้ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจำหน่ายในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิเช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง การประกอบและซ่อมรถยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า เกรโก้ทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้คุณภาพสูงสุดและตอบสนองความคุ้มค่าที่มากที่สุด ปัจจุบันจำหน่ายมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

3.       เมอร์กา (Mirka) ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดาษทรายและผลิตภัณฑ์สำหรับการขัดพื้นผิวที่ไร้ฝุ่น (Net Sanding) รายแรกของโลก จากประเทศฟินแลนด์   ด้วยนวัตกรรมการสร้างกระบวนการผลิตสารเคลือบผิวที่คิดค้นขึ้นใหม่  อาทิ เครื่องขัดไฟฟ้าไร้ฝุ่น อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพสูง ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดดเด่นเหนือคู่แข่งสามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของเมอร์กากว่า 90%  ถูกส่งออกไปจำหน่ายในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก