เปิดประตูสู่โลกแห่งอนาคต “เมฆา วี” กับนวัตกรรมเทคโนโลยีและระบบ AI

31 พ.ค. 2567 | 12:15 น.
อัปเดตล่าสุด :31 พ.ค. 2567 | 12:15 น.

โลกเต็มไปด้วยความท้าทายและปัญหาต่าง ๆ ที่รอคอยการแก้ไข ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติที่ร่อยหรอลง จนถึงความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ด้วยพลังแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยี มนุษย์จึงได้พยายามคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้

จากห้องปฏิบัติการสู่พื้นที่จริง เทคโนโลยีทันสมัยถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์และยั่งยืน ที่ผ่านมาเราได้เห็นการก้าวกระโดดของนวัตกรรม เช่น พลังงานหมุนเวียน ยานพาหนะไฟฟ้า และวัสดุชีวภาพ แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นกับโลก สะท้อนจาก “5 เทคโนโลยีนวัตกรรม” ที่น่าจับตา สำหรับอนาคตของโลกที่ยั่งยืน

 

เปิดประตูสู่โลกแห่งอนาคต “เมฆา วี” กับนวัตกรรมเทคโนโลยีและระบบ AI

1. PowerTECH เทคโนโลยี Smart Energy Platform ช่วยในการบริหารจัดการพลังงานตามเเนวทาง Net Zero เข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่สามารถวางเเผนการใช้พลังงานในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

2. MobilityTECH เทคโนโลยีเพื่อรองรับรถยนต์ที่มีความ SMART มากขึ้น จากชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ โดยนำระบบ AI มาช่วยทั้งในเรื่องระบบขับขี่เเละเพิ่มความปลอดภัย เช่น เซ็นเซอร์อัจฉริยะ ระบบ Telematics

3. HealthTECH เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพ บริการพบเเพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ เสมือนมีเเพทย์ประจำตัว โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยดำเนินการตั้งเเต่การให้คำเเนะนำจนกระทั่งการรักษา ติดตามผล เเละคาดการณ์ผลการรักษา

4. IndustrialTECH เทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่อุตสาหกรรม 4.0 เป็นระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะสนับสนุนอุตสาหกรรมเเละผู้ประกอบการไทย ผ่านการส่งเสริมความรู้เเละบริการต่าง ๆ เช่น Machine Learning & Gen AI

5. CreativeTECH ยกระดับธุรกิจครีเอทีฟของประเทศไทยสู่ระดับสากล เพื่อเสริมสร้าง Soft Power ของประเทศไทยให้เข้มเเข็ง เเละเป็นศูนย์กลาง Creative Hub ในระดับอาเซียน

นวัตกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปสู่โลกที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่ง บริษัท เมฆา วี ผู้นำด้านนวัตกรรมคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของกลุ่ม ปตท. ก็มีการศึกษาและดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีทั้ง 5 ประเภท ไม่ว่าจะเป็น การนำ Carbon Accounting Platform การนำกล้อง AI CCTV อัจฉริยะ (iVIS) ทดลองติดตั้งตามสถานศึกษา เพื่อสนับสนุนด้านความปลอดภัย ร่วมมือกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และยันฮีในการนำ AI มาช่วยวินิจฉัยและรักษาโรคทางทันตกรรม

เปิดประตูสู่โลกแห่งอนาคต “เมฆา วี” กับนวัตกรรมเทคโนโลยีและระบบ AI

 

เมฆา วี คือใคร

บริษัท เมฆา วี เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของกลุ่ม ปตท. ที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติและดิจิทัล เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวทันยุคดิจิทัล มีความเชี่ยวชาญในการนำเทคโนโลยี AI, Robotics และ Digitalization มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจต่าง ๆ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่ EV และพลังงานหมุนเวียน

ปัจจุบัน เมฆา วี ให้บริการหลักด้าน PowerTECH บริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพผ่านแพลตฟอร์ม Smart Energy Platform ช่วยวางแผน ติดตามการใช้พลังงานแบบ Real-Time รองรับการซื้อขายพลังงานแบบ Peer-to-Peer บริการจัดทำรายงานความเป็นกลางทางคาร์บอน

ความพิเศษอยู่อีกอย่างหนึ่งในบริการด้านจัดการพลังงาน คือ การซื้อขาย Renewable Energy Certificate (REC) หรือที่เรียกว่า ใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่ช่วยให้ผู้ผลิตและผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถอ้างสิทธิ์ในการผลิตและการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่น่าเชื่อถือ โดยผ่าน แพลตฟอร์ม ReAcc ที่ช่วยจับคู่ผู้ซื้อกับผู้ผลิตพลังงานที่มี RECs รองรับ

 

เปิดประตูสู่โลกแห่งอนาคต “เมฆา วี” กับนวัตกรรมเทคโนโลยีและระบบ AI

 

แพลตฟอร์มนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง ปตท. และ The I-REC Standard ช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยและผู้ที่สนใจพลังงานหมุนเวียน ได้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดและแสดงจุดยืนด้านการลดพลังงานภายในบริษัท ช่วยให้ใช้พลังงานสะอาดร่วมกันได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นReAcc จึงเปรียบเหมือน One-stop Service เป็นตัวแทนที่ช่วยบริการจัดการให้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การเป็นที่ปรึกษา Carbon Neutrality Partner การขอใบรับรอง REC การซื้อขายใบรับรอง REC การรายงานการใช้ชำระสิทธิ์ใบรับรอง REC (Redemption)

สิ่งที่น่าสนใจคือ เมฆา วี มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศไทย ด้วยการนำนวัตกรรมพลังงานหมุนเวียนมาใช้ผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นอกเหนือจากธุรกิจหลักด้าน Cloud Innovation และ AI แล้ว เมฆา วี ยังเป็นธุรกิจเรือธงใหม่ล่าสุดของกลุ่ม ปตท. ในการลงทุนธุรกิจพลังงานอนาคตและธุรกิจอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากพลังงาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของบริษัทในการขับเคลื่อนนวัตกรรมสู่อนาคตที่ยั่งยืน

เมฆา วี เริ่มดำเนินกิจการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมาเกิดจากการควบรวมกิจการของ 2 บริษัทย่อยในกลุ่ม AI Robotics and Digitalization ของ ปตท. ได้แก่ 1) บริษัท เมฆาเทคโนโลยี จำกัด (Mekha Tech) ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cloud Innovation 2) บริษัท รี แอค จำกัด (ReAcc) ผู้เชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์มพลังงานหมุนเวียนและคาร์บอนนิวเทรล

วัตถุประสงค์หลักในการก่อตั้ง เมฆา วี คือการรองรับและต่อยอดแนวคิด New S Curve ของ ปตท. ในการลงทุนอุตสาหกรรมอนาคตที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหัวใจสำคัญ มุ่งเน้นการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบสินค้าและเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท. ด้วยนวัตกรรมทางด้านคลาวด์ AI หุ่นยนต์ และดิจิทัล

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ปตท. ในการสร้างนวัตกรรมเพื่ออนาคต โดยการรวมศักยภาพของบริษัทย่อยเข้าด้วยกัน ภายใต้ บริษัท “เมฆา วี” ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัลและพลังงานสะอาดที่น่าจับตามองต่อไป