ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานว่า ในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามากว่า 30 ล้านคน และคาดว่าในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 2.5 ล้านล้านบาท* อีกทั้ง รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยว
นอกจากจะส่งผลดีต่อภาคท่องเที่ยวแล้ว แนวโน้มดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้กับ ธุรกิจค้าปลีก ซึ่งหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของอุตสาหกรรมนี้ อย่าง ซีพี แอ็กซ์ตร้า ที่มีเครือข่ายค้าปลีกขนาดใหญ่ภายใต้แบรนด์ แม็คโครและโลตัส รวมกว่า 2,700 สาขา ก็ต้องเตรียมพร้อมเพื่อรองรับโอกาสนี้ ผ่านการขยายสาขาไปยังโลเคชันที่สะดวกสบาย
พร้อมกับการปรับปรุงสาขาเดิม ครอบคลุมทั้งเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรอง รวมทั้งการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวมาวางขายในศูนย์การค้า ไม่ว่าจะเป็น สินค้าหมวดอาหารและเครื่องปรุงรส ที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการนำรสชาติไทยกลับบ้าน เช่น ซอสผัดไทย ซอสผัดกะเพรา ผงต้มยำ เครื่องแกงมัสมั่นและพะแนง ขนมขบเคี้ยว สุดฮิตหลากหลายแบรนด์
รวมถึงสินค้าพิเศษในขนาดและปริมาณที่เหมาะกับนักท่องเที่ยว เช่น ผลไม้อบแห้ง น้ำพริกสำเร็จรูป และของฝากที่คัดสรรมาเป็นพิเศษให้เหมาะกับการซื้อกลับไปเป็นของฝาก ในราคาที่เหมาะสม ไปจนถึงรายการส่งเสริมการขายอื่น ๆ ที่ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายเพิ่มขึ้น
หนึ่งในกิจกรรมที่ ซีพี แอ็กซ์ตร้า จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้คือ Thai Food Festival ที่แม็คโคร หาดใหญ่ ซึ่งรวบรวมร้านอาหาร บุฟเฟ่ต์ขนมไม้และผลไม้ สินค้าของดีของเด็ด ไอเทมเด็ดที่นักท่องเที่ยวตามหามาไว้ในที่เดียว พร้อมทั้งมอบส่วนลดและโปรโมชันสุดพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวที่มาซื้อสินค้า กิจกรรมนี้ไม่เพียงสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การจับจ่ายในพื้นที่ และสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นด้วย
ปี 2568 จะเป็นอีกปีที่ต้องจับตา ซีพี แอ็กซ์ตร้า ในฐานะจุดหมายปลายทางการซื้อสินค้าของนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะส่งผลบวกโดยตรงต่อธุรกิจของบริษัท ในด้านยอดขาย กำไร และเศรษฐกิจโดยรวมของไทย พร้อมสะท้อนบทบาทสำคัญของค้าปลีกไทยในเวทีโลก