MPJ หุ้นโลจิสติกส์ ลานตู้คอนเทนเนอร์ น้องใหม่ของไทย

16 ต.ค. 2567 | 08:45 น.

MPJ เปิดแผน IPO คาดเข้าซื้อขายในตลาด mai ต้นเดือนพ.ย. ชูจุดเด่นเป็นหุ้นโลจิสติกส์ ที่มีธุรกิจหลักคือบริหารลานตู้คอนเทนเนอร์ แถมให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร เดินหน้าเปิดลานตู้คอนเทนเนอร์แห่งใหม่ ที่กรุงเทพฯ และเตรียมลงทุน สร้าง คลังสินค้าแห่งใหม่ ย่านระยองและศรีราชา รองรับส่งออก-นำเข้าโตต่อเนื่อง  

ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2567 กระทรวงการคลังคาดว่า มูลค่าการส่งออกจะขยายตัว 4.2% ขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าคาดว่าจะขยายตัว 4.0% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและธุรกิจการให้บริการที่เกี่ยวเนื่อง 
 

นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล


นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ เปิดเผย“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมแผนเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป(IPO) จำนวน 53 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด คาดว่า จะสามารถประกาศราคาหุ้นได้ในปลายเดือนตุลาคม และเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)  ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่ง MPJ จะเป็นหุ้นโลจิสติกส์ลานตู้คอนเทนเนอร์น้องใหม่ของไทย ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ


MPJ จะแตกต่างจากหุ้นโลจิสติกส์เพราะ ธุรกิจหลักคือ ธุรกิจบริหารลานตู้คอนเทนเนอร์ 2 แห่ง ย่านศรีราชา ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง และอยู่ในเขต EEC นอกจากนี้ยังมีฟลีทรถบรรทุกที่เป็นรถหัวลาก 221 คันและรถหางพ่วง 257 คัน ซึ่งเป็นฟลีทขนาดใหญ่บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง  
 


"ธุรกิจเราเริ่มต้นจากขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จากท่าเรือแหลมฉบัง นำมาเก็บที่ลานตู้คอนเทนเนอร์และขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างแหลมฉบังและกรุงเทพฯ (ท่าเรือบกลาดกระบัง ICD) มีบริการจัดการขนส่งระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) และมีธุรกิจให้เช่าคลังสินค้าไว้บริการแก่ลูกค้าสายเรือและลูกค้าบริษัทขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นบริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ดำเนินงานเองทั้งหมด จึงสามารถควบคุมคุณภาพและบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายจีระศักดิ์กล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เน้นให้บริการแก่สายเรือระดับโลก จึงมีลูกค้าหลักเป็นสายเรือชั้นนำต่างๆ หลายแห่ง และปี 2562 บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับ OOCL Logistics (Hong Kong) Limited ผู้ให้บริการสายเรือระดับโลก OOCL และ COSCO ผ่านบริษัทย่อย MPJDC ในการจัดตั้งบริษัท โอเอ็ม ดีโพ จำกัด (OM) ซึ่ง MPJDC ถือหุ้น 49% เพื่อบริหารการจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์ของกลุ่ม OOCL และ COSCO เป็นหลัก โดย MPJ ได้รับประโยชน์หลายด้านคือ การร่วมทุนกับสายเรือ ทำให้มีปริมาณธุรกิจที่มั่นคงสูง ในการให้บริการลานตู้ ดูแลตู้คอนเทนเนอร์ของสายเรือ OOCL และ COSCO ซึ่งมีจำนวนมาก โดย MPJ ได้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมทุนปีละประมาณ 20 ล้านบาท
 


"ธุรกิจบริหารลานตู้คอนเทนเนอร์ถือเป็นธุรกิจเงินสด เพราะมีค่าบริการลานตู้ ตั้งแต่ค่าผ่านลาน ค่ายกตู้ และค่าซ่อมตู้ นอกจากนี้ MPJDC ยังให้บริการการจองระวางเรือและเครื่องบิน ซึ่งบริษัทได้ขยายทีมขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มรายได้และมีโอกาสเติบโตสูงจากฐานรายได้ในปัจจุบัน"
 

 

นอกจากนั้น บริษัทยังมีธุรกิจใหม่คือ บริการให้เช่าคลังสินค้าที่ในพื้นที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกสินค้า โดยเมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมา MPJ ได้ส่งมอบคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่จังหวัดระยอง โดยมีกลุ่มบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกเป็นผู้เช่า ซึ่งปัจจุบันคลังสินค้าทั้ง 2 แห่งของบริษัทมีลูกค้าเช่าดำเนินงานแล้ว เพราะเป็นการให้บริการแบบ Built-to-Suit 

นายจีระศักดิ์กล่าวว่า คลังสินค้าจะใช้เงินลงทุนสููง แต่สร้างผลตอบแทนที่ดีและ มั่นคงและเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของบริษัทฯ ดังนั้นในการระดมทุนขายหุ้น IPO ครั้งนี้ จึงจะมีการนำมาเพิ่มทุนใน MPJWD เพื่อคืนหนี้ธุรกิจคลังสินค้า ส่วนรถบรรทุกขนส่งจะเป็นการซื้อทดแทนรถหัวลากที่ปลดระวาง 

“ธุรกิจเราจะเติบโตไปกับปริมาณการส่งออกและนำเข้า ซึ่งสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจขนส่ง 50% ธุรกิจลานตู้ 30% บริการจองระวางเรือและเครื่องบินอีก 20% ส่วนคลังสินค้าที่จังหวัดระยองรายได้เพิ่งเข้ามา 3 ไตรมาสแต่จะรับรู้รายเต็มปีในปีหน้า 

กลยุทธ์ของ MPJ คือ ขยายธุรกิจลานตู้คอนเทนเนอร์ ที่มีอัตรากำไรที่ดี และปัจจุบันสร้างกำไร 50% ให้กับบริษัท และ ขยายธุรกิจคลังสินค้า เพื่อเพิ่มการเติบโตให้บริษัทอย่างยั่งยืน” นายจีระศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย