ลุ้นระทึก! ซึกชิงเก้าอี้นายก อบจ.เมืองชาละวัน 1 กุมภาฯ
เลือกตั้ง อบจ. 1 กุมภาฯ จับตาว่าที่ 4 ผู้สมัครนายก อบจ.เมืองชาละวัน โค้งสุดท้าย ใครเข้าวิน อย่าลืมกลับบ้านไปเลือกตั้ง อบจ. ไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่มีเลือกตั้งนอกเขต
องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร เปิดบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(นายก อบจ.) มีจำนวน 4 คน ได้แก่ หมายเลข 1 พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ อดีตนายก อบจ. หมายเลข 2. นายกฤษฎ์ เพ็ญสุภา ทายาท รุ่นที่ 3 ของตระกูล “เพ็ญสุภา” ผู้บริหารตลาด “สี่มุมเมือง”
หมายเลข 3 นายประชา โพธิ์ศรี (อิสระ) และหมายเลข 4 นายสุขเสริม ไพบูลย์ศิริ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพิจิตร และอดีตรองนายก อบจ.
สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.ในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการเลือกตั้งท้องถิ่น และมีส่วนร่วมในการพัฒนา ซึ่งจะนำไปสู่การมีส่วนร่วมทางการเมืองที่เข้มแข็งของประชาชนในจังหวัดพิจิตร ที่จะออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้
โดยทางจังหวัดได้จัดให้มีการเดินรณรงค์พร้อมแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง หัวหน้าส่วนราชการ และบุคลากรจากหน่วยงานต่าง ๆ ทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรมรณรงค์อย่างคึกคัก
อย่างไรก็ดีในการรับมอบบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตรได้มีขึ้น ณ ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร โดยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตรวจนับเพื่อนำส่งบัตรเลือกตั้งไปยังอนุกรรมการประจำอำเภอทั้ง 12 อำเภอ เพื่อจัดเก็บรักษาและดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมพร้อมในการเลือกตั้ง ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568
ตรวจสอบสิทธิเลือกตั้ง
ประชาชนสามารถตรวจสอบชื่อของตัวเองว่ามีสิทธิเลือกตั้งอยู่ที่ไหน ได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ที่เว็บไซต์ของกระทรวงมหาดไทย https://boraservices.bora.dopa.go.th/election/enqelection-local/
เเจ้งเหตุไม่ได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง
กรณีไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง นายก อบจ. 2568 เพื่อรักษาสิทธิทางการเมือง กกต.เปิดช่องทางให้ประชาชนเเจ้งยื่นไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ 3 ช่องทาง โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องแจ้งก่อนการเลือกตั้ง 7 วัน หรือภายใน 7 วันนับหลังวันเลือกตั้ง
1. แจ้งผ่านช่องทางออนไลน์
โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สามารถยื่นเเจ้งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ที่ https://boraservices.bora.dopa.go.th/election/abscauselocal/ ผ่านระบบการแจ้งเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์การเลือกตั้งท้องถิ่น
2. แจ้งผ่านแอปพลิเคชัน Smart Vote
เลือกหัวข้อ การแจ้งเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์
3. แจ้งด้วยตนเอง
ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สามารถแจ้งต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน โดยทำเป็นหนังสือซึ่งต้องระบุเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน สามารถแจ้งด้วยตัวเอง หรือมอบหมายให้ผู้อื่นไปยื่นแทน หรือจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน
สำหรับเหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ มีดังนี้
- มีกิจธุระจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล
- เจ็บป่วยและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
- เป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
- เดินทางออกนอกราชอาณาจักร
- มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กิโลเมตร
- ได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเขตเลือกตั้ง
- มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุอื่นที่ กกต. กำหนด
ไม่ไปเลือกตั้ง เสียสิทธิอะไรบ้าง
- สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (สถ./ผถ.) หรือสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.)
- สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน
- เข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (สถ./ผถ.)
- ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
- ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
"โดยการถูกจำกัดสิทธิ กำหนดเวลาครั้งละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง"