การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และสมาชิกสภา อบจ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันหยุดวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตั้งแต่เวลา 08:00–17:00 น. นี้ เป็นหนึ่งในหลายพื้นที่ที่ได้รับความสนใจจากคอการเมืองซึ่งในการเลือกตั้งนายกอบจ.ฉะเชิงเทราครั้งนี้ มีผู้สมัครจำนวน 3 คน
ฐานเศรษฐกิจ พาไปเปิดประวัติ พร้อมส่องนโยบายของผู้สมัครนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ที่น่าสนใจในการพัฒนาพื้นที่ของทั้ง 3 คน
นายกลยุทธ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา หมดวาระเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 67 ลงสมัครพร้อมสมาชิก อบจ.ครบทีมในนามกลุ่ม "รวมใจพัฒนา"
สำหรับ นายกลยุทธ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา จากตระกูลฉายแสง บ้านใหญ่ในทางการเมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มีเครือข่ายทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น เป็นบุตรชายของ นายอนันต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทรา 4 สมัย
เป็นน้องชายของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นพี่ชายของ นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอดีต สส.ฉะเชิงเทรา มีน้องสาว คือ นางฐิติมา ฉายแสง หรือ สส.เปิ้ล สส.ฉะเชิงเทรา เขต 1 พรรคเพื่อไทย
การลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ฉะเชิงเทราของนายกลยุทธ ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าบิ๊กเนมทางการเมืองมากมายที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ทั้งจากนักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น อาทิ นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย, นายศักดิ์ชาย ตันเจริญ สส.ฉะเชิงเทรา เขต 3 พรรคเพื่อไทย, นายสมชัย อัศวชัยโสภณ อดีต สส.ฉะเชิงเทรา
นายพลากร โชคพิชิตชัย นายกเทศมนตรีตำบลเทพราช, นายไพรินทร์ หนูมาก สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด อ.สนามชัยเขต เขต 2, นายนัตพล ตั้งชูทวีทรัพย์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดฉะเชิงเทราและนายธนะเกียรติ นพเกตุ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หัวสำโรง อ.แปลงยาว และประธานชมรม อบต.ฉะเชิงเทรา
เคยได้รับรางวัลนวัตกรรมดีเด่นปี 2560 จาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติและรางวัลรองชนะเลิศวิศวกรรมไฟฟ้า จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, อดีตเลขานุการ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา, ผู้บริหาร บริษัท ดีทีเอ็ม มอเตอร์กรุ๊ป
นายพนธ์ กล่าวถึงการลงสมัครเป็น นายก อบจ.ฉะเชิงเทราในครั้งนี้ว่า เพราะสำนึกรักในบ้านเกิดและยึดถือมาเป็นอุดมการณ์เรื่อยมาเนื่องจากเกิดที่ จ.ฉะเชิงเทรา จึงมองว่ามีหน้าที่ในการพัฒนาจังหวัดโดยนำความรู้ความสามารถมาช่วยเหลือคนในจังหวัดเดียวกัน ให้จังหวัดโดดเด่น เป็นหน้าตาทัดเทียมกับจังหวัดอื่น ๆ ได้
ขณะที่น้องชาย คือ นายธวัชพงศ์ มรุชพงษ์สาธร หรือ สท.รักษ์ ได้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรามาก่อนหน้านี้ โดยได้ทำงานร่วมการเมืองร่วมกันพร้อมกับเพื่อนในกลุ่มมาต่อเนื่องนับเป็นกำลังสำคัญในการลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้
ช่วงที่ผ่านมาเขาใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านสื่อโชเซียลมีเดียมาต่อเนื่อง ระบุว่า ตนเองนั้นมีความพร้อมที่จะเข้ามาดำเนินการตามนโยบายต่าง ๆ เพื่อประชาชนในเขตพื้นที่ นับตั้งแต่เด็ก ผู้หญิง ผู้ชาย วัยรุ่น วัยชรา โดยมีนโยบายครบทุกด้านที่สามารถทำได้จริงและทำได้เร็ว ทำได้เลย
ชูแนวคิด "คอนเนคแบงค์คอก" ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่โดดเด่น เนื่องจากเห็นว่า จังหวัดฉะเชิงเทราอยู่ติดกับจังหวัดในกลุ่มภาคตะวันออกถึง 8 จังหวัด ทั้งยังอยู่ติดกับเมืองหลวง หรือ กรุงเทพมหานครมากที่สุด โดยจะผลักดันให้เกิดรถไฟรางคู่ด้วยการนำรถไฟดีเซลรางมาวิ่งระหว่างสถานีฉะเชิงเทรากับสถานีรถไฟฟ้าลาดกระบัง ซึ่งจะทำให้คนวัยทำงาน และ นักเรียนที่เดินทางไปเรียนใน กทม.ไปกลับได้โดยง่าย ปลอดภัยและราคาถูก ทำให้มีเวลาดูแลคนในครอบครัวได้มากยิ่งขึ้นเพราะสามารถไปกลับได้โดยง่ายในราคาค่าโดยสารที่ถูกและยุติธรรม
อดีตประธานสภาอบจ.ฉะเชิงเทรา
เน้นนโยบายหลักหลากหลายด้าน อาทิ แก้ไขปัญหาความยากจนของคนฉะเชิงเทราโดยการสนับสนุอาชีพ, แก้ปัญหาแหล่งน้ำประปาให้สะอาดให้กับหมู่บ้านและชุมชน, ส่งเสริมสนับสนุนสาธารณสุขและ อสม. ทั้งจังหวัดฉะเชิงเทรา,
ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวและกีฬาในจังหวัดฉะเชิงเทรา, ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพด้านการศึกษาให้ดีขึ้น, แก้ไขติดตั้งไฟฟ้าสาธาระณะและแสงสว่างในชุมชนและจุดอันตรายในหมู่บ้านทุกตำบล/ทุกอำเภอ จังหวัดฉะเชิงเทรา, ติดกล้องวงจรปิดทั้งจังหวัดฉะเชิงเทรา 5,000 จุด และร่วมแก้ไขปัญหาช้างป่ากันอย่างจริงจัง ให้ช้างอยู่ในที่ของช้าง คนอยู่ในพื้นที่ของคน
มาร่วมลุ้นกันว่า ที่สุดแล้วใครจะเป็นผู้คว้าชัยในการเลือกตั้ง "คนเก่า" หรือ "คนใหม่" จะได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ต้องติดตาม
ขอบคุณภาพ องค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา