“อันวาร์ สาและ”ถามคดีตากใบใครรับผิดชอบ

16 ก.ย. 2567 | 17:13 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.ย. 2567 | 17:17 น.

หลังเกิดเหตุการณ์นำไปสู่คดีตากใบ เมื่อ 20 ปี คดีจะหมดอายุความ 25 ต.ค.นี้ “อันวาร์ สาและ”เรียกร้องบุคคลตามหมายจับ ให้เคารพกฎหมายเข้าสู่กระบวนการเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ สร้างบรรทัดฐานที่ดีงามให้กับสังคมไทย

วันที่ 17 ก.ย. 2567 นายอันวาร์ สาและ อดีตสส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนบทความในหัวข้อ “คดีตากใบใครรับผิดชอบ” ระบุว่า 

“นี่เป็นคดีและเหตุที่คนไทยไม่เคยลืมเลือน วันนี้เป็นเวลา 20 ปี แล้วคดีหมดอายุความเพิ่งจะเข้าสู่กระบวนการตุลาการหาคนผิด เมื่อวันสองวันที่ผ่านมา ศาลได้นัดมีหมายเรียกนัดพิจารณาคดีคดีตากใบนัดแรกที่ญาติพี่น้อง 48 รายร่วมฟ้อง ปรากฏว่า จำเลยผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องไม่มีใครมารายงานตัวเลยแม้แต่คนเดียว จนเป็นที่มาของการออกหมายจับ และ 1 หมายเรียก ตามมาตรา 125 เรียบร้อยแล้ว 

ผมเองคงไม่ไปกล่าวหาว่าใครผิดใครถูก ก็ให้เข้าสู่กระบวนการทางศาล และพิสูจน์ในทางคดีความกันให้ชัดเจนกันไปเลยในชั้นศาล ก็อยากเรียกร้องให้สู้คดีพิสูจน์กันในศาล และก็มีผู้ต้องหาเป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายท่าน หนึ่งในนั้นก็เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติเป็นผู้ออกกฎหมายด้วย 

เราเป็นผู้ออกกฎหมายให้ปฏิบัติเราเองก็ต้องปฏิบัติเองด้วยเช่นกันอย่าให้เขาย้อนว่าได้นะครับ  ยิ่งเคยดำรงตำแหน่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาก่อนยิ่งต้องทำปฎิบัติเป็นแบบอย่างที่ดี

คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2547  ในสมัยรัฐบาลนายกทักษิณ เป็นนายกฯ ความผิดพลาดครั้งนี้เป็นสาเหตุให้พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน หรือ พรรคเพื่อไทย ในปัจจุบันเสียที่นั่งในจังหวัดชายแดนใต้จนไม่มีเหลือแม้แต่คนเดียวในปัจจุบัน 

แต่ก็เป็นโอกาสให้กับพรรคท้องถิ่นอย่างประชาชาติได้ สส. เป็นกอบเป็นกำในพื้นที่ จนได้ร่วมรัฐบาล และได้ที่นั่งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และดูเหมือนจะเป็นเก้าอี้ที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ซะด้วย 

เพราะมูลเหตุปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ชาวบ้านเรียกร้องหิวกระหายความเป็นธรรม ในเรื่องคดีความและการทำงานของภาครัฐ โดยเฉพาะมิติความมั่นคง โดยเฉพาะคดีตากใบครั้งนี้ ที่ญาติผู้สูญเสียและประชาชนผู้เสียหา 48 รายเข้าชื่อฟ้องด้วยตัวเอง 

ผมมองว่า เป็นทั้งโอกาสและวิกฤตของพรรคการเมืองคนพื้นที่ที่จะพิสูจน์ว่า จะเป็นพรรคของคนพื้นที่และเป็นตัวแทนเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับประชาชนโดยเฉพาะท่าน สส. ในตำแหน่งทุกท่านในจังหวัดชายแดนใต้ว่าเป็นที่พึ่งได้หรือไม่ในยามนี้ ซึ่งจะพิสูจน์ได้ในวันที่ 25 ตุลาคม นี้เพราะคดีจะหมดอายุความ ถ้าบุคคลตามหมายจับ 6 คนคือ  
 

1.พล. อ.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร อดีตผู้บัญชาการพล ร5

2.พล.ต.อ. วงกต มณีรินทร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการตำรวจส่วนหน้า

3.พล.ต.อ.มาโนช ไกรวงศ์ อดีตผูบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9

4.พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล อดีต ผู้กำกับการ  สภ.ตากใบ

5.นายศีวะ แสงมณี อดีตผู้อำนวยกองอำนวยการเสริมสร้างสันตืสุข

6.นายวิชม ทองสงค์ อดีต ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส

และ 1 หมายเรียก เพราะท่านเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย  พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 จำเลยที่ 1 ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 125 เพราะเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ถ้าบุคคลเหล่านี้ไม่มารายงานตัวที่ศาล จนคดีหมดอายุความก็จะถือว่าคดีหมดอายุความไม่มีความผิดตามกฎหมาย 

ผมจึงขอเรียกร้องให้ทุกท่านเคารพกฎหมาย เข้าสู่กระบวนการเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นโอกาสจะสร้างบรรทัดฐานที่ดีงามให้กับสังคมไทย เพราะแต่ละท่านก็เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง 

โดยเฉพาะท่านพิศาล วัฒนวงษ์คีรี ท่านเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อยู่ในสภานิติบัญญัติ เป็นผู้ออกกฎหมายเอง เพื่อเป็นบรรทัดฐานแบบอย่าง และจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีให้กับพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่ท่านสังกัด และเป็นโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับตัวท่านเองด้วย ซึ่งก็ไม่ทราบว่าผลการตัดสินจะออกมาในรูปใด

พร้อมทั้งเป็นโอกาสที่ดีที่ตัวแทนประชาชน ที่จะเป็นที่พึ่งในยามยากให้กับพี่น้องประชาชนผู้ทุกข์ยากได้พึ่งพิง รวมทั้งโอกาสของรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงสำคัญเรื่องความยุติธรรม ในกรณีของจังหวัดชายแดนใต้ที่ชาวบ้านรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมมาร่วม 20 ปี และเป็นโอกาสพิสูจน์ว่า คนพื้นที่ พรรคพื้นที่ ปาตีกีตอ เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนคนพื้นที่พึ่งได้ขนาดไหนในยามนี้ 

ผมถึงถือว่านี้เป็นโอกาสในการทำงานทำความดีในนาทีนี้ และมันจะเป็นวิกฤติในรอบนี้ ถ้าท่านไม่ทำในการเลือกตั้งในรอบหน้า เพราะมันจะเป็นแผลเป็นที่รักษาไม่หายตลอดไปของคนจังหวัดชายแดนใต้ ชั่วลูกชั่วหลาน เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งที่บันทึกตลอดไป”