ด่วน! 17 ม.ค. 67 ศาลรธน.นัดชี้ชะตา “ศักดิ์สยาม” คดีถือหุ้นบุรีเจริญ
ศาลรธน.นัดชี้สถานะรมต."ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" ปมถือหุ้นบุรีเจริญฯ 17 ม.ค. 2567 นี้ หลังไต่สวนพยาน 6 ปาก ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง ด้าน “เจ้าตัว” ขอบคุณศาลที่ให้โอกาสชี้แจง
วันนี้(14 ธ.ค. 66) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการเข้าไต่สวนต่อศาลรัฐธรรมนูญในคดีที่ถูกร้องว่ายังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ทำให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการหุ้นหรือกิจการของห้างหุ้นส่วนเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี 2543 มาตรา 4(1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่
โดยนายศักดิ์สยาม ได้กล่าวขอขอบคุณศาลที่ให้โอกาสชี้แจงในวันนี้ แต่รายละเอียดทั้งหมดต้องรอคำวินิจฉัย
เมื่อถามว่าฟังแล้วมีความหนักใจอะไรหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า รอคำวินิจฉัยดูก่อน เพราะเราได้แจ้งข้อเท็จจริงไปแล้ว และวันนี้ถือว่าชี้แจงได้อย่างครบถ้วน
เมื่อถามว่าได้ยื่นพยานหลักฐานครบถ้วนหรือไม่ นายศักดิ์สยาม ได้พยักหน้าตอบรับ และเมื่อถามต่อว่าฟังการไต่สวนแล้วไม่หนักใจอะไรใช่หรือไม่ นายศักดิ์สยาม ปฏิเสธที่จะตอบพร้อมหัวเราะและขออนุญาตกลับก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การนัดไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ ใช้เวลาในการไต่สวนกว่า 5 ชั่วโมง
ทั้งนี้ หลังการไต่สวนศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า ศาลได้ไต่สวนพยานในคดีนี้รวม 6 ปากคือ นางวราภรณ์ เทศเซ็น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ นายศุภวัฒน์เกษมสุทธิ น.ส.วรางสิริ ระกิติ น.ส.ฐิติมา เกลาพิมาย น .ส.อัญชลี ปรุดรัมย์ โดยตอบข้อซักถามของศาล และของคู่กรณี คดีเป็นอันเสร็จสิ้นการไต่สวนและศาลนัดฟังคำวินิจฉัยในวันพุธที่ 17 ม.ค. 67 เวลา 14.00 น.
ก่อนหน้านั้น นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หนึ่งในผู้ร้อง ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มีการสืบพยานทั้งหมด 6 ปาก โดยศาลได้มีการถามหลายประเด็นในเรื่องกิจกรรมของทั้ง 2 บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่ากิจกรรมเกิดอย่างไรบ้าง มีสัญญากู้ยืมกันจริงหรือไม่ หรือ ยืมกันปากเปล่าและมีเงินเข้าออกจริงหรือไม่ ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะเป็นหลักในการสืบพยานวันนี้
เมื่อถามว่า จากที่ฟังการไต่สวนคิดว่า นายศักดิ์สยาม ยังถือหุ้นในบริษัทบุรีเจริญฯ หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ถ้าพูดตามตรง ทางฝั่งผู้ถูกร้องมีการยื่นชี้แจงมาแล้วรอบหนึ่ง ตนก็ได้อ่านดูคร่าวๆ ก็ยังมีบางจุดที่มีพิรุธ ซึ่งไม่สามารถฟันธงได้ว่า สรุปแล้วเป็นการใช้นอมินีหรือไม่ หรือมีการโอนหุ้นกันจริงๆ
แต่ทั้งนี้มีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยหลายอย่าง และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและนิติบุคคลต่างๆ ค่อนข้างที่จะพัวพัน และน่าสงสัยพอสมควร
จากการไต่สวนวันนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนมากสักเท่าไหร่ คงอาจจะต้องรอพยานอีก 3 ปากที่เหลือ เพราะน่าจะเป็นพยานที่มีความสำคัญต่อคดีนี้พอสมควร