ย้อนรอย 9 เดือน "อธิบดีดีเอสไอ" สางปม 3 คดีร้อน

28 พ.ย. 2566 | 14:24 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ย. 2566 | 14:57 น.
884

ย้อนรอย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล 9 เดือนบนเก้าอี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กับ 3 คดีร้อน นำเข้าหมูเถื่อน หุ้น MORE ทุจริตหุ้น STARK

9 เดือนเต็มพอดีสำหรับการหน้าที่ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ของ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล

นับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ อย่างเป็นทางการตามมติ คณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ก่อนถูกย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566

พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล

เป็น 9 เดือนที่มี 3 คดีร้อน คือ คดีหุ้น MORE บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) คดีหุ้น STARK บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น และคดีการนำเข้าหมู่เถื่อน เข้ามาอยู่ในมือการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า 

จนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกอาการหงุดหงิด ก่อนการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 ณ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 

“วันนั้นผมก็อารมณ์เสียใส่ดีเอสไอไปเรื่องหุ้น MORE  และหุ้นSTARK ซี่งเป็นเรื่องสำคัญที่ความไว้วางใจในตลาดมีน้อย เรื่องเกิดมานานเท่าไหร่ ยังไม่จบเสียที ติดอยู่ที่ดีเอสไอ ไม่ใช่เรื่องหมูอย่างเดียว” นายเศรษฐา ระบุ

ย้อนรอย 9 เดือน \"อธิบดีดีเอสไอ\" สางปม 3 คดีร้อน

กระทั่งวันนี้ 24 พฤศจิกายน 2566 ดีเอสไอต้องตั้งโต๊ะแถลงความความคืบหน้าทั้ง 3 คดี โดยพ.ต.ต.สุริยา ได้ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินการกับขบวนการค้าหมูเถื่อนว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ดีเอสไอ ได้เร่งรัดดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทั้งหมด ในการสืบสวนและหาพยานหลักฐานดำเนินคดี กับกลุ่มเหล่านี้ที่ถือเป็นขบวนการองค์กรอาชญากรรม

ประกอบด้วย 3 กลุ่ม คือ นายทุน ข้าราชการการเมือง อดีตข้าราชการ โดยดีเอสไอจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่สาวไปถึง ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับคนในระดับใด หรือ เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ต่างๆ 

“ผมไม่กังวลในเรื่องนี้ ว่าจะมีผลกับการทำหน้าที่ เพราะทำตรงไปตรงมา และนายกรัฐมนตรีได้ไฟเขียวพร้อมกำชับให้ดำเนินการเต็มที่” พ.ต.ต.สุริยา กล่าวเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ระหว่างการแถลงข่าว

ย้อนรอย 9 เดือน \"อธิบดีดีเอสไอ\" สางปม 3 คดีร้อน

ขณะที่ความคืบหน้าคดีทุจริตหุ้น บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (หุ้น STARK) ซึ่งเป็นคดีพิเศษที่ 57/2566 มูลค่าความเสียหายจำนวน 14,778 ล้านบาท

และคดีหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น  (หุ้น MORE)  คดีพิเศษที่ 66/2566 ความเสียหายประมาณ 800 ล้านบาท โดยคดีหุ้น MORE มีผู้เกี่ยวข้องตามความผิดฐานปั่นหุ้น 32 ราย

พันตำรวจโท จักรกฤษณ์  วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ระบุว่า ว่า คดีหุ้น STARK ดำเนินการสืบสวนสอบสวนตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 มีผู้เสียหายทั้งสิ้น 4,704 ราย

โดยเตรียมสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ เรียกสอบพยานแล้ว 157 ราย และแจ้งข้อกล่าวหาแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง 11 ราย เป็นบุคคลธรรมดา 6 ราย และนิติบุคคล 5 ราย

ย้อนรอย 9 เดือน \"อธิบดีดีเอสไอ\" สางปม 3 คดีร้อน

ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชน รวมถึงความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 2542 โดย 11 ราย ที่ดีเอสไอ แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 

พร้อมกันนี้ได้ออกหมายจับนายชนินทร์ เย็นสุดใจ เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้นำส่งทรัพย์สินจากการยึด/อายัดไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มูลค่าเกือบ 400 ล้านบาท เพื่อดำเนินการในทางทรัพย์สินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

ขณะที่ความคืบหน้าในคดีปั่นหุ้น MORE ทาง ก.ล.ต. ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายความผิดตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงรวบรวมหลักฐานมาให้ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ เมื่อเดือน มิถุนายน 2566 มีผู้ต้องหารวม 32 ราย

ย้อนรอย 9 เดือน \"อธิบดีดีเอสไอ\" สางปม 3 คดีร้อน

โดยดีเอสไอจะออกหมายเรียกให้ 28 ราย เข้ามาสอบเพิ่มเติม เริ่มรายแรกในช่วงต้นเดือน ธันวาคมนี้ แต่ก่อนหน้าที่ดีเอสไอจะรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 4 ราย ในข้อหาฉ้อโกง  

พร้อมกันนี้ดีเอสไอได้สอบปากคำพยาน รวม 77  ราย ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พยานที่ยืนยันความสัมพันธ์ของกลุ่มผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่บริษัทหลักทรัพย์ พร้อมได้ส่งข้อมูลทรัพย์สินให้สำนักงาน ป.ป.ง.ได้ทำการอายัดบัญชีทรัพย์สิน 34 รายการ รวมเป็นเงินประมาณ 4 พันล้านบาท

 

ประวัติ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล

จบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปี 2535 ปริญญาโท คณะสังคมศาสตร์ สาขาอาชญาวิทยาและบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล

หลังจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เข้ารับตำแหน่ง รอง สว.งาน 3 กก.5 ส.1 สำนักงานตำรวจสันติบาล ก้าวขึ้นเป็นรอง สว.สส.สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม

ทำหน้าที่หัวหน้าชุดปราบปรามโจรกรรมรถยนต์ และหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด รอง สว.ผ.3 กก.2 กองปราบปราม ทำหน้าที่หัวหน้าชุดสืบสวน สว.งาน 4 กก.1 ส.2 สำนักงานตำรวจสันติบาล ตามลำดับ

ย้อนรอย 9 เดือน \"อธิบดีดีเอสไอ\" สางปม 3 คดีร้อน

จากนั้นโอนย้ายมาดีเอสไอ ในตำแหน่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 7ว. ส่วนคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ 2 สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ผ่านงานในตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงานคดีความมั่นคง, ผอ.ส่วนสำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ , ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม, สำนักพัฒนาและสนับสนุนคดีพิเศษ, สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ และผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 และขยับขึ้น รองอธิบดีดีเอสไอ 

ต่อมาได้โอนย้ายไปนั่งรองเลขาธิการ ป.ป.ส. เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561 จากนั้นได้กลับเข้ามารับตำแหน่วงปรึกษาเฉพาะด้านนโยบายและการบริหารงานยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม ในเดือนตุลาคม 2564 คัมแบ๊กกระทรวงยุติธรรมนั่งเก้าอี้ ซี10 ที่ปรึกษาเฉพาะด้านนโยบายและการบริหารงานยุติธรรม 

ตุลาคม 2565 ก้าวขึ้นเป็นผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และถูกโยกสลับมารักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เมื่อวันที่18 มกราคม 2566 และถูกแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีดีเอสไอ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 

กระทั่งวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ประชุมครม.ได้มีมติโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม