วันนี้ (26 ก.ย. 66) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ. 2495/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร และทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นจำเลย ในความผิดฐานดูหมิ่น สถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา ม. 112 และร่วมกันมั่วสุมชุมนุม ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ตาม พ.ร.ก.การบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ
กรณี เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563 จำเลยกับพวกได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง ที่บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยบางช่วงบางตอนของการปราศรัย จำเลยได้กล่าว แสดงความอาฆาตมาดร้ายดูหมิ่นสถาบัน
ทั้งนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลอาญาพิพากษาคดี นายอานนท์ นำภา มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนอีก 7 ข้อหาให้ยกฟ้อง ลงโทษจำคุก 4 ปี ปรับเป็นเงิน 20,000 บาท ไม่รอลงอาญา ขณะนี้อยู่ระหว่างประกันตัวในชั้นอุทธรณ์
ก่อนหน้านั้น นายอานนท์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าฟังคำพิพากษาว่า ทั้งขบวนคนรุ่นใหม่ได้สร้างปรากฏการณ์ที่เปลี่ยประเทศไป จนไม่สามารถย้อนกลับไปเหมือนเดิมได้แล้ว ในแง่ของความคิดคน ตนมองว่าตอนนี้คนทั้งประเทศเชื่อในสิทธิเสรีภาพ เห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นอารยะ
เห็นได้จากทุกรูปแบบทั้งในสื่อโซเชียล บนท้องถนน
ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ชัดเจนแล้ว คนรุ่ยใหม่ก็โตมาโดยเชื่อในสิทธิเสรีภาพความเท่าเทียม ตนคิดว่าการชุมนุมในปี 2563 ทำให้สังคมเปลี่ยนไปเยอะมากเป็นการต่อสู้ที่คุ้นค่า
เมื่อถามว่าอยากฝากอะไรถึงนักเคลื่อนไหวในตอนนี้ นายอานนท์ กล่าวว่า อยากให้กำลังใจ วันนี้เรายังไม่ทราบคำพิพากษา ถ้าออกมาในทางร้ายก็คงติดคุกซึ่งเราก็ต้องสู้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากตนต้องถูกขังภายหลังก็ต้องเบิกตัวตนออกมาศาลเพื่อทำหน้าที่ทนายความและจำเลย เพราะตนเป็นทนายความให้กับคดีการเมือง กรณีชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าวปี 2563 จะทำหน้าที่จากในคุก และนอกคุก ฝากให้กำลังใจขอบคุณคนที่สนับสนุน ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด
นายอานนท์ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้กำลังใจยังดี คำพิพากษาวันนี้เป็นเรื่องเมื่อ 14 ต.ค. ซึ่งตนไปปราศรัยปรามไม่ให้ตำรวจเข้ามาสลายการชุมนม การที่วันนี้อาจจะสูญเสียเสรีภาพตามคำพิพากษา อาจจะหลายปี แต่ก็คุ้ม ที่เหตุการณ์ดังกล่าวที่เราเดินจากราชดำเนินไปล้อมทำเนียบฯ ไม่เกิดการสูญเสีย เป็นการเสียเสรีภาพโดยส่วนตัวต่อส่วนรวมที่คุ้มค่าอย่างมากด้วยความเต็มใจ
เมื่อถามว่าหากวันนี้ นายอานนท์ต้องเข้าคุก จะมีกลุ่มนักกิจกรรมออกมาเคลื่อนไหวหรือไม่ นายอานนท์ กล่าวว่า แน่นอน เพราะการเคลื่อนไหวยังมีเรื่อยๆ มีการผ่อนไปตามสถานการณ์แต่เราจะไม่หยุด การต่อสู้มีเป้าหมายชัดเจนว่าเราต่อสู้เพื่ออะไร