"บิ๊กป้อม”ประกาศพร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30

17 ม.ค. 2566 | 18:06 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ม.ค. 2566 | 03:12 น.

“บิ๊กป้อม”นำทีมแกนนำพรรคพลังประชารัฐ เปิดนโยบาย "บัตรประชารัฐ" 700 บาท สู้ศึกเลือกตั้ง ประกาศพร้อมเป็น "นายกฯ คนที่ 30" จับมือทุกฝ่ายก้าวข้ามความขัดแย้ง

วันนี้(17 ม.ค.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำพรรค ได้เป็นประธานการแถลงข่าว เปิดนโยบายของพรรค พปชร. เพื่อใช้หาเสียงในการเลือกตั้ง โดยชูนโยบาย เพิ่มเงินในบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ให้กับประชาชน และพร้อมเริ่มมีผลทันทีหลังจากที่ พรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล 

                               พรรคพลังประชารัฐเปิดนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท

ในส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐ จะนำมาจากงบประมาณในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ของงบประมาณปี 2566 ทั้งนี้ หากมีผู้ได้รับสิทธิ์ประมาณ 18 ล้านคน คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ ปีละ1.5 แสนล้านบาท


พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เนื่องจากพรรคพลังประชารัฐ ได้ดูแลช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นเงิน 200-300 บาท/เดือน ด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ยังไม่ครอบคลุมค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้พรรคได้มีการประเมิน จากการลงพื้นที่ของส.ส. และว่าที่ผู้สมัครส.ส. พบว่า เงินที่ช่วยเหลือดังกล่าวยังไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เพราะในแต่ละพื้นที่มีสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่แตกต่างกัน  

                               พรรคพลังประชารัฐเปิดนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท

ดังนั้น เสียงสะท้อนจากผู้ได้รับสิทธิ ทำให้ประเมินว่าควรมีการเพิ่มเงินช่วยเหลืออีกประมาณ 500 บาท ทำให้พี่น้องประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สำหรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกและคุณสมบัติผู้รับสิทธิยังคงยึดกรอบเดิมเป็นหลัก คือ รายได้ไม่เกิน 1 แสนบาท และนำคนที่เคยได้รับสิทธิตามบัตรมาพิจารณา โดยจะเริ่มจากเดือนละ 700 บาท ทันทีหลังจากที่พรรคได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เข้าไปบริหารประเทศ 

พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า จากการที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและบริหารประเทศมาเกือบ 4 ปี ด้วยอุดมการณ์และนโยบายของพรรคที่ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติเป็นประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพไร้ความขัดแย้ง สังคมสงบสุข ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและในช่วงที่ผ่านมา 

พรรคพลังประชารัฐในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้ขับเคลื่อนนโยบายของพรรค และมีผลงานที่เป็นรูปธรรม ได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชน ทั้งในทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำตามนโยบายของพรรค ในเรื่องการสร้างสวัสดิการประชารัฐ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การบริหารจัดการน้ำ การจัดที่ดินทำกิน การปราบปรามการค้ามนุษย์ อุตสาหกรรมประมงและอื่นๆ ที่มากมาย

ความหวังของคนไทย ที่รอคอยให้คนที่มีความพร้อมเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับคนไทยคือ สังคมไทยยังคงมีความแตกแยกทางความคิด 

"ขอยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมสานสัมพันธ์กับทุกฝ่าย เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าสร้างพลังแห่งความปรองดองและสามัคคี โดยเราพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยทุกคนโดยประเทศไทยของเราต้องมีแต่ความสงบสุข" 

                           พรรคพลังประชารัฐเปิดนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาท

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึง ตนขอนำเสนอบุคลากรของพรรคที่มีคุณภาพ และเข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนได้อย่างถ่องแท้ เพราะเข้าใจว่าในความต้องการของแต่ละพื้นที่ ทางพรรคพร้อมสานต่อนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนที่ได้ทำไว้ และริเริ่มนโยบายใหม่ๆ ให้คนไทยได้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะตอบสนองและแก้ไข ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทุกพื้นที่ทุกเพศทุกวัย ด้วยคำว่า “พลังสามัคคีประชามีสุข รัฐพลิกโฉมบริการ”

ผู้สื่อข่าวถามได้สอบถาม พล.อ.ประวิตร ว่า พร้อมที่จะเป็นนายกฯ คนที่ 30 หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า "ก็เลือกมาดิ ถ้าเลือกได้ก็เป็น ถ้าประชาชนเลือกได้ให้ผมเป็น ผมก็เป็น" ทันทีที่สิ้นคำตอบบรรดาแกนนำพรรคต่างส่งเสียงเฮกันดังลั่นห้อง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าพร้อมจับมือกับทุกพรรคการเมืองใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า “เราก้าวข้ามความขัดแย้ง ผมไม่ได้บอกว่า ผมจะจับมือกับใครเลย ทุกพรรคเรามาคุยกันได้ เปิดโอกาสให้คุยกันได้”