"บิ๊กป้อม"ลั่น! พปชร.ยังเหนียวแน่น ไม่มีใครออกสักคน

11 ต.ค. 2565 | 13:08 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ต.ค. 2565 | 20:33 น.

"บิ๊กป้อม"สยบข่าวส.ส.พลังประชารัฐ กทม. จ่อไขก๊อก ลั่้น !ยังเหนียวแน่น ไม่มีใครออกสักคน ปัดตอบ"ธรรมนัส"ย้ายซบเพื่อไทย

วันที่ 11 ต.ค. 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าว ส.ส.กทม. เตรียมย้ายพรรค โดยยืนยันว่า ภายในพรรคยังเหนียวแน่นอยู่ ไม่มีใครออกสักคน

         

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธตอบคำถามถึงการพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย(ศท.) ถึงกระแสข่าวเตรียมย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย โดยเดินขึ้นรถไปทันที
 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

 

ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงความชัดเจนในการทำงานการเมืองหลังมีกระแสข่าว ส.ส.พปชร.เตรียมย้ายออกไปอยู่พรรคการเมืองอื่น โดยยืนยันว่า กลุ่มสามมิตรยังไม่คิดไปไหน ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ  และส่วนตัวยังมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สามารถควบคุมสถานการณ์และทำงานไปได้


          
นายสมศักดิ์ ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.65 หลังกลับมาจากต่างประเทศ ก็ไม่ได้พบใคร และไม่ได้ทำงาน เพราะไม่สบาย จึงไม่ได้พูดคุยเรื่องการเมืองกับใคร เรื่องที่มีข่าวออกมานั้น จึงไม่ทราบข่าวว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
          
ส่วนข่าวการไปร่วมงานวันเกิดของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดนั้น ได้ทราบว่ามีสมาชิกพรรคบางคนไปร่วมงานวันเกิดของผู้ใหญ่พรรคการเมืองอื่น ก็อาจเป็นการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีการคิดอะไรกันไป แต่ไม่ได้ระบุว่าจะมีการหารือกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในพรรค ทั้งกระแส ส.ส.ลาออก หรือแพแตกหรือไม่
        

  ส่วนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะครบวาระ 8 ปีในปี 2568 ทำให้อยู่ในการเมืองได้แค่ 2 ปี จะเป็นปัญหาในการสู้ศึกเลือกตั้งหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า ไม่มีปัญหา เหลือ 2 ปี สามารถไปต่อได้ และพรรคพลังประชารัฐจะเสนอแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีทั้ง 3 คนหรือไม่นั้น คงต้องพูดคุยกันก่อน
          

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว. อุตสาหกรรม

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว. อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ออกมาสยบข่าวลือกรณีมีข่าวว่า "กลุ่มสามิตร" จะย้ายพรรค โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยังคงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อไป และจะไม่ไปไหน และในอนาคต ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ก็จะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐด้วย พร้อมย้ำว่าจะอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์


          ส่วนกระแสข่าวที่ถูกมองว่าพรรคพลังประชารัฐกระแสตกต่ำนั้น นายสุริยะ เชื่อว่า สิ่งที่รัฐบาลนี้แก้ปัญหาโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สงครามยูเครนกับรัสเซีย ถือเป็นสภาวะที่ไม่ปกติ แต่รัฐบาลสามารถแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าประชาชน จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ในการทำงานอย่างต่อเนื่อง


          "เป็นเรื่องปกติที่มีการพุ่งเป้ามาที่กลุ่มสามมิตรว่าจะย้ายพรรค และเป็นการคาดเดาไปเอง ขอยืนยันให้เกิดความชัดเจนว่า กลุ่มสามมิตรสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ส่วนกลุ่มอื่นจะย้ายพรรคหรือไม่ คงไปบังคับใครไม่ได้ แต่ย้ำว่ากลุ่มสามมิตรยังอยู่ที่เดิม" นายสุริยะ กล่าว
         

       ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรีในเวลานี้นั้น นายสุริยะ เห็นว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมา ตนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชน โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมการช่วยเหลือชาวไร่อ้อย ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สนับสนุนให้ให้มีรายได้ที่ดีขึ้นและมีความพึงพอใจ

 

         ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรียังสนับสนุนงบกลางให้กระทรวงอุตสาหกรรม ฝึกอาชีพแก่ประชาชนจำนวนถึง 1.4 ล้านคน ถือเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้ทำให้กับประชาชน และส่วนตัวก็มีความพึงพอใจ