"เดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์" ผู้ท้าชิงเก้าอี้ ส.ส. เชียงใหม่ เขต 5 พปชร.

เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ 5 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคพลังประชารัฐเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าในพื้นที่ภาคเหนือ สำหรับ นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 ลูกชายของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายเดชนัฐวิทย์ หรือ "ป้ำ" ได้รับกระแสและถูกจับตามองมาตั้งแต่วันที่เขาประกาศเดินตามรอยผู้เป็นพ่อเข้าสู่เส้นทางการเมืองเมื่อปี 2562 

เวลานั้น "เดชนัฐวิทย์" ได้เปิดตัวร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยพร้อมกับนักการเมืองรุ่นใหม่หลายสิบคนที่เป็นทายาทแกนนำ และ อดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย แต่ยังไม่ทันลงสมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ในเขตพื้นที่ฐานเสียงของบิดาก็ประกาศลาออกเสียก่อน

โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากลำบากใจที่ทนายความของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะโจมตีบิดาตนหลายเรื่องจึงรู้สึกว่า เพื่อไทยและแกนนำที่เป็นผู้ใหญ่ของพรรคไม่เชื่อใจและอาจทำให้การทำงานร่วมกันในอนาคตลำบาก จึงขอถอยออกมาหนึ่งก้าว

กระทั่ง ในวันนี้ "เดชนัฐวิทย์" เปิดตัวเป็นหนึ่งในว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าในพื้นที่ภาคเหนือ เขต 5 จังหวัดเชียงใหม่ 

ย้อนกลับไปเขาเคยให้สัมภาษณ์ในการย้ายซบพรรคพลังประชารัฐท่ามกลางเสียงวิพากวิจารณ์และถูกตั้งคำถามถึงการย้ายมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐเพื่อช่วยนายบุญทรงหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า

"ใช่ เราต้องการช่วยคุณพ่อแต่ไม่ใช่เพื่อให้อยู่สบายขึ้นในเรือนจำ ไม่เกี่ยวกัน เพราะการช่วยบิดานั้นมีสิ่งที่สามารถทำได้ในอีกหลายมิติ และสิ่งหนึ่ง คือ การเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนแทนบิดา อย่างน้อยเป็นการแก้ความเชื่อและกู้ศักดิ์ศรีให้คืนมาจากการถูกประชาชนตีหน้าว่าเป็นคนผิด"  

นายเดชนัฐวิทย์ เน้นย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตนั้นเขาไม่อยากพูดถึงให้เกิดความขัดแย้งและเกิดความเข้าใจผิดโดยไม่จำเป็นเพราะคงไปเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ หวังแค่ให้ประเทศไทยมุ่งไปสู่การไร้ซึ่งความขัดแย้งในอนาคต 

นายเดชนัฐวิทย์ มีชื่อเล่นว่า "ป้ำ" เกิดและเติบโตที่จังหวัดเชียงใหม่

• จบปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
• ปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ Coventry University, UK

เดชนัฐวิทย์ สนใจการเมืองและซึมซับมาตั้งแต่เด็กนับตั้งแต่เดินตามนายบุญทรงหาเสียงมาตั้งแต่ปี 2548 ใฝ่ฝันและอยากเป็นนักการเมืองโดยมีนายบุญทรง บิดาเป็นฮีโร่ ทั้งยังบอกด้วยว่า เขาไม่เคยกลัวเรื่องอุบัติเหตุทางการเมืองหรือการถูกดำเนินคดีแต่ต้องการเข้ามาทำงานการเมืองในฐานะของคนรุ่นใหม่