ผ่าแผน 3 ขั้น คุณหญิงพจมาน พา“ทักษิณ”กลับบ้าน
ผ่าแผน 3 ขั้น คุณหญิงพจมาน แม่ทัพตัวจริงพรรคเพื่อไทย พา“ทักษิณ ชินวัตร”กลับบ้าน : รายงานการเมือง หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3818 หน้า 12
ถือเป็นครั้กแรกในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่ พรรคไทยรักไทย ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ที่ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และครอบครัว พร้อมหน้าพร้อมตากัน ในกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย “สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานา ชาติ จ.เชียงใหม่ เมื่อ วันที่ 10 ก.ย.2565
ทั้ง คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร, เอม-พินทองทา ชินวัตร และ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร พร้อมทั้งเขยใหญ่-เขยเล็ก ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ และ ปิฎก สุขสวัสดิ์ รวมถึง บรรณพจน์ ดามาพงศ์ เยาวภา-สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปรากฏตัวกันครบ
ในทางการเมืองมองกันว่า การปรากฏตัวของ คุณหญิงพจมาน ก็เหมือน “แม่ทัพตัวจริง” ของพรรคเพื่อไทย ออกศึกนั่นเอง
เมื่อ “แม่ทัพตัวจริง” ออกศึก ก็ย่อมเป็นการสร้าง ขวัญ กำลังใจ และอาจรวมถึง "กำลังทรัพย์" ให้เกิดกับ พลพรรคเพื่อไทย ที่จะฮึกเหิมสานฝัน “แลนด์สไลด์” ได้ส.ส. 250+ อีกครั้ง ในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้
เป้าใหญ่ก็คือ พา “ทักษิณ ชินวัตร” กลับบ้านแบบเท่ๆ นั่นเอง
แผน3ขั้นพาทักษิณบ้าน
รศ.ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ได้วิเคราะห์ถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านบันได 3 ขั้น ภายหลังการปรากฏตัว ของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ดังนี้
1.บันไดขั้นที่หนึ่ง ต้องเริ่มจากการให้พรรคเพื่อไทย “แลนด์สไลด์” ก่อน เพื่อเป็นการแสดงผลประชามติอย่างชัดเจนว่า ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีภาพ นายทักษิณ ชินวัตร ปรากฏอย่างแจ่มชัด ถือเสมือนประชาชนให้การสนับสนุน นายทักษิณ นั่นเอง และต้องให้เพื่อไทยได้ จำนวน ส.ส.แบบทิ้งขาดอันดับ 2 ไม่เห็นฝุ่น จะได้ไม่มีปัญหาในการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล
2.บันไดขั้นที่สอง พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล รวมเสียงข้างมากที่สุด ซึ่งต้องไม่ใช่เสียงข้างมากแบบปกติอย่างที่ นายทักษิณ เคยทำตลอดมา คือ ปริ่มๆ 300 เสียง หรือเกิน 300 เสียงนิดๆ แต่ต้องรวมเสียงพรรคการเมืองต่างๆ ให้ได้แบบเด็ดขาด แบบที่อาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น 400 เสียง จากจำนวนเต็ม 500 ส.ส.
หรือถ้าเป็นไปได้อาจรวมพรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติได้เลย ถ้าจัดสรรผลประโยชน์ลงตัว สิ่งนี้จะสะท้อนว่า เป็นรัฐบาลผสมที่มาจากเสียงส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดของประเทศ ผ่านการลงเลือกตั้งให้กับพรรครัฐบาล ที่เข้ามารวมตัวกันจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเท่ากับสะท้อนเสียงประชาชนเกือบทั้งหมดของประเทศไปในตัว ก็จะทำให้เกิดความชอบธรรมสูงสุดในการปกครอง และจะนำไปสู่บันไดขั้นที่สามต่อไป
ปรองดองขั้นสูงสุด
3.บันไดขั้นที่สาม จะดำเนินการโดยเริ่มเสนอนโยบายปรองดองขั้นสูงสุด ผ่านกลไกทางกฎหมายและทางรัฐสภา และชี้ชวนประชาชนเกือบทั้งหมด ซึ่งแสดงตนผ่านการเลือกพรรคการเมืองที่มารวมตัวเป็นรัฐบาลนี้ ให้เห็นถึงความผาสุกอย่างถาวรของประเทศ เป็นสำคัญกว่าการมาคำนึงถึงตัวนายทักษิณ คนเดียว
"การเพิ่มพลังการสนับสนุนขนาดใหญ่แบบนี้ จะส่งผลให้พลังฝ่ายต่อต้านการกลับบ้านของคุณทักษิณ อาจจะจุดประเด็นไม่ขึ้น และส่งผลให้กลุ่มขั้วผู้มีอำนาจฝ่ายแนวจารีต หันมาประนีประนอมรอมชอมกันได้ง่ายขึ้น"
รศ.ดร.เชษฐา ชี้ว่า บันไดสามขั้นนี้จะเกิดขึ้นได้ สุดท้ายต้องเริ่มจากการ “แลนด์สไลด์” ในการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องทิ้งพรรคอันดับสองแบบขาดลอย เหมือนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ผ่านมา
จึงเห็นได้ว่า การเดินเกมของพรรคเพื่อไทยช่วงนี้ ถ้าพรรคการเมืองใดที่มีแนวโน้มจะมาตัดฐานเสียงของเพื่อไทย ด้วยการจัดอีเวนท์หาเสียงสำคัญ ๆ พรรคเพื่อไทยจะขยับตัวแก้เกมทันที ด้วยการจัดอีเวนท์ประกบ ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทยของ อนุทิน ชาญวีรกูล พรรคสร้างอนาคตไทย ของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรือ พรรคไทยสร้างไทยของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็ตาม
นั่นคือมุมมองของ นักรัฐศาสตร์ ม.ราชภัฏธนบุรี ที่วิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจ
ส่วน “คุณหญิงพจมาน” แม่ทัพตัวจริง และ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะทำฝันให้เป็นจริง พา “ทักษิณ” กลับบ้านได้หรือไม่ มาคอยดูกัน...