“สุดารัตน์”มาแรงอันดับ 1 คนอีสานชูนั่งนายกฯ ตามด้วย อุ๊งอิ๊ง-พิธา-บิ๊กตู่

10 ก.ย. 2565 | 15:28 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ก.ย. 2565 | 22:40 น.

"อีสานโพล"เปิดผลสำรวจความคิดเห็นคนอีสาน พบ 3 ปัญหาที่กำลังเผชิญและเครียด “ค่าครองชีพ-ราคาวัตถุดิบ-พลังงาน”เพิ่มขึ้น เลือกตั้งใหม่อยากได้ “สุดารัตน์”นั่งนายกฯ แก้ปากท้อง ตามด้วย "อุ๊งอิ๊ง-พิธา" ส่วน"บิ๊กตู่”รั้งอันดับ 4

วันนี้ (10 ก.ย.65)  อีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน มหาวิทยาลัยวิทยาลัยขอนแก่น ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนชาวอีสาน ในหัวขัอ "ความเครียดของคนอีสานกับปัญหาเศรษฐกิจ" 


โดยผลการสำรวจพบว่า 3 ปัญหาที่คนอีสานกำลังเผชิญและมีความเครียดมากที่สุด คือ ค่าครองชีพสูง และราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพิ่มขึ้นมาก และรายได้ไม่พอกับรายจ่าย จนต้องมีหนี้เพิ่ม

และยังมีปัญหาเศรษฐกิจอื่นๆ ที่คนอีสานราวๆ 30% รู้สึกเครียดมากและรอการบรรเทาปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการหางานใหม่ยากหรือหางานทำยาก ภาระรายจ่ายด้านการศึกษา ผ่อนชำระหนี้กับสถาบันการเงินไม่ไหวขาดทุนจากการทำเกษตรหรือแทบไม่มีกำไร ขาดแคลนเงินทุนหรือสินเชื่อในการทำมาหากิน เป็นผู้สูงอายุที่มีเงินไม่พอใช้หรือมีภาระต้องเลี้ยงดูผู้สูงอายุ และผ่อนชำระหนี้นอกระบบไม่ไหว

 

รศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อความเครียดที่คนอีสานกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและการเงินเพื่อสะท้อนปัญหาของคนอีสานให้กับทางภาครัฐหรือพรรคการเมืองต่างๆ ได้หาแนวทางบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจให้กับคนอีสาน จากกลุ่มตัวอย่างอายุ18 ปีขึ้นไป 1,065 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด 

โดยเมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับความเครียดเกี่ยวกับปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเงินใน 14 ประเด็น พบว่า ค่าครองชีพสูง/ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น เป็นปัญหาที่ทำให้คนอีสานมีความเครียดมากที่สุดคือ ร้อยละ 62.4 รองลงมา ร้อยละ 56.9 เครียดมากจากปัญหาค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพิ่มขึ้นมาก


อันดับ3 ร้อยละ 42.5 เครียดมากจากปัญหารายได้ไม่พอกับรายจ่ายจนต้องมีหนี้เพิ่ม ตามมาด้วย ร้อยละ 37.1 เครียดมากจากปัญหาผ่อนชำระหนี้กับสถาบันการเงินไม่ไหว ร้อยละ 33.8 เครียดมากจากการหางานใหม่ยาก หรือ หางานทำยาก ร้อยละ 33.0 เครียดมากจากภาระรายจ่ายด้านการศึกษา 


ร้อยละ 32.2 เครียดมากจากปัญหาขาดทุนจากการทำการเกษตร หรือ แทบไม่มีกำไร ร้อยละ 31.9 เครียดมากจากปัญหาขาดแคลนเงินทุนหรือสินเชื่อในการทำมาหากิน ร้อยละ 29.7 เครียดมากจากการเป็นผู้สูงอายุที่มีเงินไม่พอใช้หรือมีภาระต้องเลี้ยงดูผู้สูงอายุ


ร้อยละ 28.6 เครียดมากจากการผ่อนชำระหนี้นอกระบบไม่ไหวร้อยละ 24.0 เครียดมากจากธุรกิจมียอดขายลดลงหรือขายได้น้อย ร้อยละ 19.3 เครียดมากจากการมีอุปสรรคการทำมาหากินจากหน่วยงานรัฐ ร้อยละ 13.8 เครียดมากจากการโดนหลอกหรือโดนโกงจนสูญเสียเงินจำนวนมาก และ ร้อยละ 7.9 เครียดมากจากปัญหานักท่องเที่ยวยังมีน้อยส่งผลต่อการทำมาหากิน 


เมื่อสอบถามว่าถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ ท่านอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พบว่า


อันดับ1 เป็นของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 23.4 


รองลงมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 21.1 


อันดับ 3  นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 20.2 


อันดับ 4 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 12.5 

 

ตามด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 9.9 


คนอื่นๆ จากพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 6.5 


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ร้อยละ 2.8 


พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 1.7 


และอื่นๆ ร้อยละ 1.9