"วิษณุ"ยัน11 รมต. ไม่หวั่นศึกซักฟอก ชี้เสียงโหวต "239"ได้อยู่ต่อ

18 ก.ค. 2565 | 15:51 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.ค. 2565 | 23:26 น.

"วิษณุ" ยัน นายกฯ-11รมต. ไม่หวั่นไหวศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้สภามี 477 เสียง ถ้าส.ส.โหวตหนุน 239 เสียง" ได้อยู่ต่อ

วันที่ 18 ก.ค.65 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีรัฐมนตรีหลายคนมาพูดคุยขอคำปรึกษาก่อนจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 19-22 ก.ค. และลงมติในวันที่ 23 ก.ค. ว่าเป็นการพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไม่เคร่งเครียด หรือปรึกษาหารือในการเตรียมพร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่อย่างใด

 

ไม่มีใครขอคำปรึกษาด้านกฎหมายจากตน เพียงแต่ตนได้เล่าถึงสมัยอดีตในยุคที่นายกรัฐมนตรีหลายคน เช่น นายกฯชวน นายกฯบรรหาร นายกฯชวลิต นายกฯทักษิณ ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นบ้าง และเป็นอย่างไรในการอภิปรายในสมัยนั้นๆ เล่าให้ฟังสนุกๆ เพราะรัฐมนตรีหลายคนไม่ได้อยู่ในรัฐบาลยุคนั้น

 

นายวิษณุ กล่าวว่า ครั้งนี้เองก็เป็นธรรมดา ไม่ได้หนักเบาไปกว่ากัน เพียงแต่คราวนี้ผู้ถูกอภิปราย 11 คน ถือว่าเยอะ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งคณะก็เคยมีมาแล้ว ตนไม่ได้เจตนาที่จะหวังผลปลุกใจก่อนวันอภิปรายในวันที่ 19 ก.ค. อย่างที่ถูกวิจารณ์แต่อย่างใด ตนเป็นคนที่อดไม่ได้ก็อยากจะเล่าให้รัฐมนตรีฟังถึงเรื่องในอดีต ไม่ใช่ว่ามีใครหวั่นไหวอะไร แค่อยากเล่าเท่านั้น

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี

 

นายวิษณุกล่าวด้วยว่า หากจะเป็นห่วงมีอยู่นิดเดียวคืออภิปราย 11 คน แต่ใช้เวลาเพียง 4 วัน อาจจะตอบได้เพียงคนละนิด ดังนั้น จึงน่าหวั่นเกรงในเรื่องการบริหารเวลาทั้งของฝ่ายค้านและรัฐบาลที่อาจจะบริหารยากหน่อย


ผู้สื่อข่าวถามว่าการวางคิว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นคนสุดท้ายถือเป็นเทคนิค หรือนัยยะของฝ่ายค้านหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ วิปทั้งสองฝ่ายตกลงกันอย่างไร ตนไม่ทราบ แต่ถ้าจะลำดับเช่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาด เป็นเรื่องปกติที่จะทำ เพราะหากตนเป็นฝ่ายค้านก็จะทำเช่นนั้นเหมือนกัน

 

อย่างไรก็ตาม ผู้อภิปราย 1 คน สามารถอภิปรายรัฐมนตรีหลายคนได้ ซึ่งฝ่ายค้านแบ่งเอาไว้เป็นสูตร 2 : 3 : 3 : 3 คือเริ่มที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทินกับนายศักดิ์สยาม

 

ต่อมาคือพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ นายจุติ นายนิพนธ์ จากนั้นพรรคพลังประชารัฐ นายสันติ นายชัยวุฒิ นายสุชาติ และวันสุดท้ายคือ 3 ป. ซึ่งก็เป็นระเบียบดี
 

นายวิษณุกล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลไม่ได้มีการจัดระเบียบอะไร แต่เตรียมไว้ให้รัฐมนตรีแต่ละคนตอบประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนนายกฯตอบ 5 ชั่วโมง แต่ถ้ารัฐมนตรีจะตอบมากกว่า 1 ชั่วโมง ก็ตอบไปหลังเที่ยงคืน หรือไปตอบนอกสภา ดังนั้น สิ่งที่น่าห่วงคือการบริหารเวลา
 

เมื่อถามว่ากรณีเสียงปริ่มน้ำไม่น่าห่วงหรืออย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เห็นว่ามีใครห่วง ทั้งนี้ ต้องใช้คะแนนเสียงไม่ไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่ง คือคะแนน 238 ครึ่ง ดังนั้น ถ้ารัฐมนตรีได้ 239 ตามที่โหวตไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีคนนั้นสอบตก

 

ส่วนคะแนนเสียงไว้วางใจจะมีเท่าไหร่นั้นในทางกฎหมายไม่เป็นสาระสำคัญ เช่น อาจจะงดออกเสียงเป็นร้อยเลยก็ได้ แต่ในความรู้สึกของสื่อและประชาชนจะไปจับตาดูว่าคะแนนไว้วางใจมีเท่าไหร่แล้วเอามาเปรียบเทียบ แต่ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ไม่ได้ให้เทียบเช่นนั้น แต่รัฐมนตรีจะพ้นจากตำแหน่งเมื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจและได้รับคะแนนไม่ไว้วางใจเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาที่มีอยู่

 

“ วันนี้สภามี 477 เสียง ดังนั้น ก็ต้องคอยดูว่าคะแนนที่จะได้แต่ละคนเป็นอย่างไร ซึ่งใครจะได้เท่าไหร่ถือเป็นเทคนิคฝ่ายการเมือง ผมไม่ทราบว่าใครมีคะแนนอยู่เท่าไหร่ ตอนนี้เราก็รู้อยู่ว่าฝ่ายค้าน 206-207 เสียง และบางคนยังบอกว่ามีฝากเลี้ยง มีงูเห่า แต่สำหรับผมไม่มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งตัวเลข 239 ถือเป็นตัวเลขหลักที่อยากให้ทำความเข้าใจกับประชาชนที่จะต้องดูที่ 239 เสียง” นายวิษณุ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าคะแนนรัฐมนตรีแต่ละคนไม่จำเป็นต้องเท่ากันใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีอะไรผิดบาป เพียงแต่ทำให้รู้สึกเสียเครดิต เสียรังวัดไปนิดหน่อยว่าคนนั้นได้รับความไว้วางใจมากกว่าคนนี้ เป็นเรื่องธรรมดา ไม่เห็นต้องต้องถือสา อภิปรายกันมา 3 ครั้งแล้วในรัฐบาลนี้ และคะแนนเสียงไว้วางใจก็ไม่ได้เท่ากัน

 

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการเรียกร้องว่าหากใครได้รับคะแนนไม่ไว้วางใจสูงจะต้องรับผิดชอบอะไรหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า โดยมารยาทไม่มีปัญหา เมื่อถามย้ำว่าหากคนนั้นคือนายกฯจะต้องรับผิดชอบอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีในทางกฎหมาย แต่มารยาทในทางการเมืองก็ไม่เคยมีมารยาทอะไรในเรื่องนี้ ก็ผ่านไป 7 วันก็ลืมกันแล้ว ถ้าใครได้ถึง 239 ก็อยู่ไป

 

เมื่อถามว่านายกฯเครียดกับการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า "ผมไม่รู้ สื่อก็ไปถามนายกฯดูสิ และเดี๋ยววันที่ 23 ก.ค.ช่วงเช้าก็รู้ว่าใครได้คะแนนอย่างไร ทั้งนี้ หากมีรัฐมนตรีที่ไม่ถูกยื่นอภิปราย แต่ถูกพาดพิงสามารถลุกขึ้นชี้แจงได้ จะปล่อยให้ถูกด่าฟรีได้อย่างไร 

 

ช่น ถ้าอยู่ดีๆ อภิปรายเรื่องพลังงานโดยไปซ่อนอยู่ในการอภิปรายนายกฯ ทางนายกฯก็มอบนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตอบแทนได้ เป็นต้น"