“อรรถวิชช์”เตือนระวังทฤษฎี“แตกแบงก์พัน”ขัดกฎหมาย

09 ก.ค. 2565 | 14:16 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ค. 2565 | 21:23 น.

“อรรถวิชช์”เตือนระวังทฤษฎี “แตกแบงก์พัน”ขัดกฎหมาย ชี้หาร 500 เป็นวิวัฒนาการทางการเมือง ได้พรรคการเมืองหลากหลายตรวจสอบถ่วงดุลได้จริง มั่นใจไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เปิดตัว "KLA Sport" ใช้กีฬาเชื่อมสัมพันธ์เยาวชน

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เปิดงาน "กล้าจตุจักร ฟุตซอลเกม" กิจกรรมแข่งขันฟุตซอลเยาวชน ในเขตจตุจักรและใกล้เคียงเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการ KLA Sport ตามนโยบายสนับสนุนเยาวชนสู่กีฬาอาชีพ สร้างสัมพันธ์กับเยาวชนและพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนนโยบายด้านกีฬาของพรรค และใช้กีฬาต้านยาเสพติด โดยเฉพาะล่าสุดมีเรื่องกัญชาเสรี หากเยาวชนนำไปใช้ผิดทางก็เกิดอันตราย ถ้าใช้ถูกทางก็กลายเป็นประโยชน์  หากมีเครือข่ายเยาวชนเป็นหูเป็นตาช่วยกันดูแลถือเป็นเรื่องที่ดี


นายอรรถวิชช์ ยังกล่าวถึงระบบเลือกตั้งแบบใหม่ โดยขอบคุณ ส.ส. และ ส.ว. ที่โหวตเห็นชอบให้ใช้วิธีการคำนวณจำนวน ส.ส.ด้วยวิธีการหารด้วย 500 ซึ่งพรรคกล้านั้นจัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้สอดรับกับการหารด้วย 500 ตั้งแต่ต้น เนื่องจากมองว่าการหารด้วย 500 จะทำให้คนรุ่นใหม่ทางการเมือง มีโอกาสเข้าสู่การเมืองได้ ทำให้มีพรรคเฉพาะกิจ เฉพาะด้านเกิดขึ้น ทั้งพรรคด้านเศรษฐกิจ ด้านกีฬา ด้านสิ่งแวดล้อม 

ทั้งเชื่อว่า ในอนาคตจะเป็นรัฐบาลผสมที่มีความหลากหลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะเมื่อเข้าไปทำการเมืองจริง จะทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารมีการตรวจสอบกันได้จริง ประชาธิปไตยจะมีการพัฒนา แต่หากกลับไปใช้สูตรเดิมที่ผ่านมา ก็ทราบดีว่ามีบทเรียนอะไรเกิดขึ้น ก็จะกลายเป็น ส.ส.ทำการเมืองคล้ายกับนักการเมืองท้องถิ่น 

                                   
ยืนยันว่า พรรคกล้าพร้อมกับกติกาที่จะออกมา และคิดว่าแนวทางนี้น่าจะไปได้ดี ทำให้พรรคสามารถจะเป็นเวทีให้กับคนรุ่นใหม่ได้ ซึ่งภายหลังจากที่มีการประกาศสูตรหาร 500 ก็มีคนสมัครเข้าพรรคเพื่อแสดงเจตจำนงลงสมัคร ส.ส.ในเขตพื้นที่ต่าง ๆ จำนวนมาก 

“สูตรหาร 100 เคยเกิดขึ้นแล้ว กลายเป็น ส.ส.ต้องลงไปทำการเมืองคล้ายกับนักการเมืองท้องถิ่น ไม่ใช่การเมืองที่สู้ในระดับชาติ ที่มากกว่านั้นคิดว่าสูตรหาร 500 ไปได้ มันทำให้การเมืองเปลี่ยน เราเคยลองมาแล้วทั้งสูตรหาร 100 ทั้งบัตรเลือกตั้งใบเดียวแบบหาร 500 แต่ครั้งนี้เป็นบัตรสองใบหาร500 ผมว่ามันคือวิวัฒนาการทางการเมือง”


ส่วนกรณีที่หลายคนที่กังวลเรื่องจะทำให้เกิดพรรคเล็กจำนวนมากแบบที่เคยเกิดขึ้นหรือไม่นั้น นายอรรถวิชช์ เชื่อว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง กำหนดไว้ชัดเจนถึงวิธีของการคำนวณ อ่านและเข้าใจกติกาง่ายกว่า จะไม่เกิดการเขย่งเหมือนในอดีตที่ผ่านมา เพราะมีแนวโน้มว่าเมื่อคำนวณคะแนนเสียงแล้ว จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อจะเกินกว่าที่กำหนด ดังนั้นจำนวนคะแนนเสียงต่อ ส.ส. 1 คน อาจต้องใช้มากกว่า 7 หมื่น หรือ 8 หมื่นเสียง ไม่เหมือนอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ 


นายอรรถวิชช์ ยังกล่าวถึงกรณีจะมีการแตกแบงก์พันของพรรคการเมืองบางพรรคว่า เรื่องนี้จะต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะหากเป็นกรรมการบริหารอยู่พรรคหนึ่ง แล้วไปจัดตั้งพรรคการเมืองอีกพรรค จะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้ความจริงไม่จำเป็นต้องไปแตกแบงก์พัน เป็นพรรคแบบไหน ก็ต่อสู้แบบนั้น มีโอกาสชนะได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เทคนิค แต่ขอว่าสู้กับอะไร ก็ขอให้มีความชัดเจนของเป้าหมาย ว่าต้องการต่อสู้กับใคร 


เลขาธิการพรรคกล้า ย้ำว่า แม้จะมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ แต่ไม่ว่าท้ายที่สุดจะออกมาเป็นสูตรหารด้วย 100 หรือ 500 พรรคกล้าก็พร้อมที่จะสู้เสมอ และพรรคกล้าและพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ ล้วนตั้งขึ้นมาด้วยสูตรการหาร 500 และเชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง เนื่องจากตนและทีมกฎหมายของพรรค อ่านกฎหมายทุกมาตรา และมั่นใจว่าแม้จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ผลการวินิจฉัยก็ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ