วิธีง่ายๆ ยกเลิกใช้บัตร Easy Pass ของการทางพิเศษฯ แล้วได้เงินคงเหลือคืน

30 ก.ย. 2566 | 06:02 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ย. 2566 | 06:53 น.
2.5 k

หลายคนสงสัยจะต้องทำอย่างไร ถ้าได้รับ “หนังสือแจ้งเตือน” การเรียกเก็บค่ารักษาบัญชีเงินสำรองในบัตร Easy Pass ของการทางพิเศษฯ (กทพ.) ซึ่งถ้าไม่ต้องการใช้บัตรอีกแล้ว ก็มีวิธีการไม่ยุ่งยากในการยกเลิก และได้เงินที่คงเหลือในบัตรคืน

 

จากกรณีที่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะเรียกเก็บ เงินค่ารักษาบัญชีบัตร Easy Pass จำนวน 25 บาท ต่อเดือน โดยจะเริ่มเก็บตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไปนั้น

ก่อนอื่นเลย ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า กทพ.จะเรียกเก็บเงินค่ารักษาบัญชี Easy Pass ดังกล่าว เฉพาะบัตร Easy Pass ที่ไม่ได้มีการใช้งาน หรือไม่มีการเคลื่อนไหวทางบัญชีเติมเงิน เกิน 1 ปีเท่านั้น (นับจากวันที่ใช้บริการหรือเพิ่มเงินในบัญชีสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass ครั้งสุดท้าย) ไม่ได้เรียกเก็บกับผู้ใช้ Easy Pass โดยทั่วไป

ซึ่งในกรณีดังกล่าว หากผ่านพ้นวันที่ 30 กันยายน 2566 ไปแล้ว กทพ.ก็จะเริ่มเก็บค่ารักษาบัญชีจากผู้ใช้บัตร Easy Pass ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวนั้น ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป โดย กทพ. จะหักเงินในบัญชีเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass ทุกเดือน จำนวน 25 บาทต่อเดือน โดยเมื่อจำนวนเงินในบัญชีเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass ของผู้ใช้บริการถูกหักค่าธรรมเนียมจนไม่มีจำนวนเงินคงเหลือแล้ว บัญชีของผู้ใช้บริการจะถูกปิดและยุติการใช้งานบัตร Easy Pass ทันที

แนวทางการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรักษาบัญชีบัตร Easy Pass

เหตุผลที่ต้องเก็บค่ารักษาบัญชี

เนื่องจากในการให้บริการบัตร Easy Pass ทางกทพ. ต้องจัดหาตัวอุปกรณ์บัตร OBU และบัตรสมาร์ทการ์ดให้ผู้ใช้บริการ โดย กทพ. ได้ให้ผู้ใช้ทางพิเศษใช้บริการฟรี เพียงแต่ต้องเติมเงินค่าผ่านทางในบัตร ซึ่ง กทพ. ต้องมีการบริหารจัดการในทุกบัญชี

ดังนั้น ผู้ใช้บริการควรต้องใช้บริการตามวัตถุประสงค์ที่ขอสมัครไว้ และหากผู้ใช้บริการมีความจำเป็นที่จะไม่ใช้บัตร Easy Pass อาทิ ไปทำงานต่างประเทศ หรือเหตุอื่น ๆ ก็สามารถติดต่อ กทพ. เพื่อขอยกเลิกการใช้งาน ซึ่งจะได้รับเงินในบัตรคืน

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะครบกำหนดที่บัตร Easy Pass ไม่ได้ถูกใช้งาน หรือไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่มีการเติมเงินครบ 1 ปีนั้น ทาง กทพ. จะส่ง SMS หรืออีเมล หรือจดหมาย แจ้งให้กับผู้ใช้บริการ Easy Pass ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวได้ทราบล่วงหน้าว่าทาง กทพ.จะเริ่มเก็บค่ารักษาบัญชีแล้ว

ดังนั้น เพื่อไม่ให้ถูกหักเงินในบัญชีเงินสำรองค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass  ผู้ใช้บริการสามารถดำเนินการได้ 2 กรณี ดังนี้

กรณียกเลิกการใช้บัตร Easy Pass 

  • ให้นำส่งคืนอุปกรณ์ทั้งหมด (กล่อง OBU + Smart Card) พร้อมแนบสำเนาสมุดบัญชีธนาคารที่ประสงค์จะให้โอนเงินคืน (กรณีมีเงินคงเหลือ) ทั้งนี้ หากมีวงเงินคงเหลือในบัตร Easy Pass หลังจากยกเลิกการใช้เรียบร้อยแล้ว กทพ.จะทำการคืนเงินให้เจ้าของบัญชีผ่านบัญชีธนาคาร ภายใน 20 วันทำการ 
  • หากอุปกรณ์สูญหาย ให้ชำระค่ากล่อง OBU 300 บาท ค่าบัตร Smart Card 30 บาท รวมเป็นเงิน 330 บาท พร้อมแนบสำเนาสมุดบัญชีธนาคารที่ประสงค์จะให้โอนเงินคืน (กรณีมีเงินคงเหลือ)

กรณีประสงค์จะใช้บัตร Easy Pass ต่อ

  • (อุปกรณ์ยังอยู่) ให้ใช้ทางพิเศษอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อให้บัตรมีการใช้งาน
  • (อุปกรณ์สูญหาย) ชำระค่ากล่อง OBU 300 บาท ค่าบัตร Smart Card 30 บาท รวมเป็นเงิน 330 บาท และใช้ทางพิเศษอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง 

สถานที่ติดต่อ

  • อาคารด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษทุกแห่ง ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 05.00-22.00 น. (ยกเว้นสายทางพิเศษศรีรัชวงแหวนรอบนอกฯ หรือ สายประจิมรัถยา) 
  • ศูนย์บริการที่เดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service Center) ชั้น 1 อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ กทพ. (จันทร์-ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 08.30-15.30 น.
  • Easy Pass Fast Service สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บริเวณจุดพักรถบางนา (ขาออก) ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (จันทร์-ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00-16.30 น. (ในกรณีทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเงิน 09.00-15.30 น.)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร EXAT Call Center 1543 ตลอด 24 ชั่วโมง

ยกเลิกการใช้บัตร Easy Pass ต้องทำอย่างไร