สำหรับ ประวัติ “กำนันนก” กำนันคนดังวัย 35 ปี แห่งตำบลตาก้อง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม หรือในชื่อ-สกุลจริง คือ นายประวีณ จันทร์คล้าย ก่อนที่เขาจะถูกนำตัวไปยังศาลอาญารัชดาเพื่อฝากขังผัดแรกในวันนี้ (9 ก.ย.) ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ดูหม่นหมอง ช่างแตกต่างจากภาพจำในช่วงชีวิตก่อนหน้านี้ กำนันนกเป็นผู้ทรงอิทธิพล ไม่เพียงในฐานะนักการเมืองท้องถิ่นที่แวดล้อมด้วยลูกน้องห้อมล้อมหน้าหลัง ซึ่งรวมถึงนาย “หน่อง หมั่นมาก” หรือที่รู้จักกันในนาม “หน่อง ท่าผา” ผู้ต้องหาสังหารตำรวจทางหลวง ที่ถูกวิสามัญฯ ขณะพยายามต่อสู้และหลบหนีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ก.ย.) ซึ่งช่วยเสริมให้กำนันนกดูเป็นผู้มากบารมี แต่ในชีวิตส่วนตัวเขายังเป็นคนดังท้องถิ่นในฐานะมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทก่อสร้างถึงสองแห่งที่ทำรายได้กว่าสองพันล้านบาท ขับรถหรูแบรนด์ดังจากยุโรปมูลค่านับสิบล้านที่สะสมไว้เป็นอย่างดีเรียงรายในโรงจอดรถติดแอร์ และหนึ่งในนั้น คือ รถยนต์หรูเบนท์ลีย์ รุ่น เบนเทย์กา ไฮบริด 2020 ซึ่งเป็นรถเอสยูวีไฮบริดสัญชาติอังกฤษฉายา "คฤหาสถ์เคลื่อนที่" ราคาในไทยคันละ 11-13 ล้านบาท ดังที่ปรากฏเป็นข่าวในวันที่ตำรวจนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพัก
ย้อนไปสมัยวัยเยาว์ นายประวีณเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ "ผู้ใหญ่โยชน์" หรือนาย ลออง จันทร์คล้าย ผู้ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านตำบลตาก้องเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตัวผู้ใหญ่โยชน์ ผู้เป็นพ่อนั้น เป็นที่นับหน้าถือตาและเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของสส.กลุ่มบ้านใหญ่ จัดว่าเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ นอกจากนี้ ผู้ใหญ่โยชน์ยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท “ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด” ตั้งอยู่ริมถนนสายตาก้อง-ดอนตูม หมู่ 2 ต.ตาก้อง อ.เมืองนครปฐม ทำธุรกิจประเภทรับเหมาก่อสร้าง ตัดถนน สร้างสะพาน ขุดคลอง สร้างอาคารสถานที่ที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย และวางท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ในหลายจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจให้เช่ารถ
ส่วนตัวกำนันนกนั้น เดินตามรอยผู้เป็นพ่อด้วยการเป็นผู้ใหญ่บ้านก่อน เขาได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านตาก้องได้เพียง 1 ปี ก็สมัครลงแข่งขันสังเวียนกำนันเมื่ออดีตกำนันตำบลตาก้องได้เสียชีวิต ซึ่งเขาก็ได้รับเลือกเป็น "กำนันนก" แห่งบ้านตาก้อง นับจากนั้นมา และในขณะเดียวกัน เมื่อผู้ใหญ่โยชน์ผู้เป็นพ่อเริ่มมีอายุมากขึ้น กำนันนกก็ได้เข้าสานต่อธุรกิจของครอบครัว
จากข้อมูลของกรมธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท ป.รวีกนก เป็นบริษัทที่มีชื่อของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก เป็นกรรมการแต่เพียงผู้เดียว ส่วนอีกบริษัท คือ ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด มีชื่อของกำนันนกเป็นกรรมการบริษัทร่วมกับสมาชิกครอบครัวอีกสองคน คือ นายลออง จันทร์คล้าย และนางสุวีณา จันทร์คล้าย ทั้งสองบริษัททำธุรกิจ 5 ปี มีรายได้รวมกันกว่า 2,600 ล้านบาท!
อดีตลูกน้องของกำนันนกเคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า กำนันนก เป็นคนใจถึงพึ่งได้ และมีลูกน้องเยอะ โดยเฉพาะพวกวัยรุ่นที่ไม่มีงานทำ บางคนก็มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด กำนันนกให้ทั้งที่พักพิงและให้งานทำมีรายได้เลี้ยงตัว รอบตัวของเขาจึงห้อมล้อมด้วยบรรดาลูกน้อง โดยเฉพาะ "หน่อง ท่าผา" ถือว่าเป็นลูกน้องคนสนิท ทุกครั้งที่ลูกน้องมีเรื่อง กำนันนกจะคอยเคลียร์ให้เสมอๆ
หนึ่งในลูกน้องกำนันนกเผยว่า กำนันเป็นคนนิสัยดี ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่ถ้าดื่มสุรา นิสัยก็จะเปลี่ยนเป็นคนละคน มีความกร่างและเป็นนักเลง แต่ไม่เคยหาเรื่องใครก่อน และไม่เคยไปทำร้ายใคร ส่วนใหญ่จะเป็นลูกน้องของกำนันนก ที่กร่างและคอยหาเรื่องเพราะมีนิสัยค่อนข้างเกเร
นั่นเป็นคำบอกเล่าที่เผยถึงจุดอ่อนของกำนันนก ที่วันนี้กลายเป็นผู้ต้องหาคดี “ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่า” พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง หรือสารวัตรแบงก์ อย่างเต็มตัวแล้ว
ย้อนเหตุการณ์ยิงตำรวจอุกอาจ ดับ 1 เจ็บสาหัส 1
วันที่ 6 ก.ย. 2566 เกิดเหตุคนร้ายลั่นกระสุนสังหาร พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม จากการตรวจสอบพบกระสุนถูกเข้าทั่วร่างนายตำรวจหนุ่มที่เสียชีวิตกว่า 7 นัด สถานที่เกิดเหตุคือบริษัทรับเหมาก่อสร้างของกำนันนก ที่มีงานเลี้ยงบ่อยครั้งและในวันนั้นก็มีงานเลี้ยงที่กำนันนกเชิญ พ.ต.ต.ศิวกร และพ.ต.ท.วศิน มาร่วมงานด้วย ข่าวระบุว่า กำนันนกและนายตำรวจทั้งสองมีปากเสียงกัน ก่อนที่นายหน่อง ลูกน้องกำนันนกจะลั่นกระสุนสังหารนายตำรวจ
ต่อมาศาลจังหวัดนครปฐมอนุมัติออกหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายธนัญชัย หมั่นมาก ชื่อ-สกุลจริงของ “หน่อง ท่าผา” อายุ 45 ปี ในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และ ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน" ส่วนกำนันนก ตกเป็นผู้ต้องหาในการสั่งการให้ “หน่อง ท่าผา” เป็นผู้กระทำความผิด
หน่อง ท่าผา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) วิสามัญเช้าตรู่วันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะพยายามต่อสู้ตำรวจเพื่อหลบหนีการจับกุม
ส่วนกำนันนกถูกหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.469/2566 ลงวันที่ 7 ก.ย.2566 ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น” เขาเข้ามอบตัวช่วงเย็นวันเดียวกันนั้น โดยยืนกรานปฏิเสธในข้อกล่าวหา อ้างว่าลูกน้องเป็นผู้ลงมือเอง เขาไม่เกี่ยวข้อง แต่ยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง
ในวันที่นกปีกหัก
วันนี้ (9 ก.ย.) เวลา 09.40 น. เจ้าหน้าที่ชุดหนุมานกองปราบนำตัว "กำนันนก" ไปยังศาลอาญารัชดาเพื่อฝากขังผัดแรกแล้ว ซึ่งเกี่ยวกับคดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้มีการโอนสำนวนให้กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบในการสอบสวนแล้ว เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นว่าจะไม่มีการวิ่งเต้นล้มคดี
นอกจากนี้ บิ๊กโจ๊กยังมองว่า คดีนี้ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน เนื่องจากพยานหลักฐานและตัวบุคคลมีความชัดเจนแล้ว แต่ยังจะต้อง “สืบสวนขยายผล” ไปถึงประเด็นอื่นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกำนันนกทุกราย ซึ่งรวมถึงการขยายผลในประเด็น “การจ่ายส่วย” ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐด้วย เพื่อเป็นการล้างบางอิทธิพลในพื้นที่ให้สิ้นซาก