ดีเอสไอ ตรวจยิบบริษัทกำนันนก พบ 7 หน่วยงานเป็นคู่สัญญา ส่อฮั้วประมูล

13 ก.ย. 2566 | 16:50 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.ย. 2566 | 17:07 น.
654

กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดข้อมูล "บริษัทกำนันนก" พบ 12 ปี ประมูล 7 หน่วยงานรัฐ คว้างานไป 1,544 โครงการ "กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น" มากสุด เจาะไส้ใน 2 งานเป็นน้ำจิ้ม ส่อฮั้วประมูล เรียก 29 บริษัทซื้อซองแต่ไม่มาประมูลให้ข้อมูลสัปดาห์หน้า

วันนี้(13ก.ย.66) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งโต๊ะแถลงรายละเอียดการตรวจสอบ "ธุรกิจกำนันนก" หรือ นายประวีณ จันทร์คล้าย ที่มีการทำธุรกิจในเครือข่ายหลายธุรกิจเข้าเสนอและรับงานจากหน่วยงานของรัฐหลายกระทรวงในพื้นที่หลายจังหวัด ซึ่งดีเอสไอพบว่า มีการประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ผลิต และจำหน่ายยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต ก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย มีมูลค่าหลายพันล้านบาท 

รายงานข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะมีการออกหมายเรียก 29 บริษัท ที่ยื่นซื้อซองประมูลงานโครงการเดียวกับบริษัทของกำนันนก แต่ไม่ร่วมประมูล เข้ามาให้ข้อมูลกับดีเอสไอ

ดีเอสไอ ตรวจยิบบริษัทกำนันนก พบ 7 หน่วยงานเป็นคู่สัญญา ส่อฮั้วประมูล
 

ข้อมูลจาก ดีเอสไอพบสถิติโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของบริษัทกำนันนกที่ทำกับ 7 หน่วยงานภาครัฐ รวม 12 ปี คือ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 - 2566  โดยเรียงตามลำดับของวงเงินงบประมาณโครงการ พบข้อมูล ดังนี้

1. กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รวม 1,206 โครงการ

  • วงเงินงบประมาณ 3,657,356,798.72 บาท
  • ราคารวมทุกสัญญา 3,270,899,520.47 บาท

2. กรมทางหลวง รวม 110 โครงการ

  • วงเงินงบประมาณ 2,323,251,116 บาท
  • ราคารวมทุกสัญญา 2,125,789,533 บาท 

3.กรมทางหลวงชนบท รวม 153 โครงการ

  • วงเงินงบประมาณ 1,484,535,624 บาท
  • ราคารวมทุกสัญญา 1,472,375,324 บาท

4. กรมการปกครอง รวม 71 โครงการ

  • วงเงินงบประมาณ 78,978,540 บาท
  • ราคารวมทุกสัญญา 65,126,672 บาท

5. กองทัพอากาศ 2 โครงการ

  • วงเงินงบประมาณ 16,580,000 บาท
  • ราคารวมทุกสัญญา 15,053,000 บาท

6. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 1 โครงการ

  • วงเงินงบประมาณ 10 ล้านบาท
  • ราคารวมทุกสัญญา 9,950,000 บาท

7. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1 โครงการ

  • วงเงินงบประมาณ 8.7 ล้านบาท
  • ราคารวมทุกสัญญา 5,621,200 บาท 

ดีเอสไอ ตรวจยิบบริษัทกำนันนก พบ 7 หน่วยงานเป็นคู่สัญญา ส่อฮั้วประมูล

ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ(กคร.) หรือ "กองคดีฮั้วประมูล” กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบข้อมูลในฐานข้อมูลของ กคร. เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ผลการตรวจสอบพบว่า เครือข่ายกำนันนก มีเครือข่ายธุรกิจที่เข้าไปรับงานจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานภาครัฐตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 จนถึงปัจจุบัน รวม 1,544 โครงการ ในวงเงินงบประมาณ 7,579,402,078.72 บาท และวงเงินทำสัญญารวม 6,964,815,249.47 บาท 

ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ(กคร.) (ขวา)

โดยแบ่งเป็น 2 บริษัท คือ 

  • บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด (เข้ารับงาน 923 โครงการ) 
  • บริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด (เข้ารับงาน 621 โครงการ)

มีมูลค่าวงเงินสัญญาตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป รวม 20 โครงการ แบ่งเป็น

  • บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด จำนวน 18 โครงการ 
  • บริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด จำนวน 2 โครงการ

และพบว่าในจำนวน 20 โครงการนี้ พบว่าข้อมูลที่มีเหตุอันควรสงสงสัยจะมีการได้เข้าทำสัญญากับภาครัฐโดยไม่โปร่งใส มีลักษณะอันอาจเข้าข่ายตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อมีวัตถุประสงค์เข้าทำสัญญากับรัฐโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยกีดกันไม่ให้มีการเสนอราคาอันมิใช่เป็นการประกอบธุรกิจปกติ ประกอบไปด้วย 

  1. โครงการประกวดราคาจ้างเหมาทำการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย อ.ดอนตูม-ต.ลำลูกบัว โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) (เลขที่โครงการ : 59086265559) งบประมาณ 300,000,000 บาท 
  2. ประกวดราคาจ้างก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 375 สาย ต.ลำลูกบัว-บรรจบทางหลวงหมายเลข 346 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) งบประมาณ 350,000,000 บาท 

"อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีคำสั่งให้ทำการสืบสวน และอยู่ระหว่างการดำเนินสืบสวน"


ร.ต.อ.สุรวุฒิ ขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า ได้มีบุคคลที่ไม่ประสงค์จะแจ้งตัวตนได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์ของเครือข่ายบุคคลที่เกี่ยวข้องมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว  ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการขยายผลการดำเนินคดีกับเครือข่ายได้เป็นอย่างดี และขอให้ บุคคลบริษัท/ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่ได้รับหรือเคยได้รับผลกระทบจากการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการข่มขู่ คุกคาม หรือกีดกัน ไม่ให้เข้าร่วมการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐอย่างเป็นธรรม จากนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก และเครือข่าย ขอให้แจ้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยเร็ว ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะพิจารณาในเรื่องการคุ้มครองพยานตามมาตรการคุ้มครองพยาน เพื่อกวาดล้างขบวนการ