นับถอยหลัง เปิดยุคสู่‘รัฐบาลดิจิทัล’    

19 ธ.ค. 2565 | 17:03 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ธ.ค. 2565 | 00:11 น.
569

นับถอยหลัง 10 ม.ค.2566 คนไทยถ้วนหน้าจะได้สัมผัส “รัฐบาลดิจิทัล” อย่างใกล้ชิด เป็นเนื้อเป็นหนังกันยิ่งขึ้น   ครบกำหนด ตามที่ พ.ร.บ.การบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ.2562 ขีดเส้นไว้ เพื่อให้ภาครัฐก้าวเข้าสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล

จากที่ทุ่มลงทุน 2,000 ล้านบาท เป็นงบที่ครม.อนุมัติให้ 1,100 ล้านบาท ที่เหลือสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) จัดสรรงบจากกองทุนดีอี.สมทบให้

 

มอบหมายบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ดูแลระบบ รองรับ 900 หน่วยงาน 3,000 ระบบ จัดทำให้บริการภาครัฐในภาพรวมกว่า 10,000 แห่ง ต้องมีช่องทางให้บริการประชาชนผ่านทางออนไลน์ อย่างน้อยแห่งละ 1 ช่องทาง

ภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สดช.)

ต่อไปชาวบ้านไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน กลางทุ่งกลางป่า หรืออยู่ที่บ้าน จะทำบัตรประชาชน แจ้งย้ายเข้า-ออกทะเบียนบ้าน ยื่นคำร้อง ถ้ามีคลื่นก็สามารถติดต่อหน่วยงานต่างๆ ทางออนไลน์ได้เลย

 

เป็น “รัฐบาลดิจิทัล” ที่คนสัมผัสได้บนหน้าจอสมาร์ทโฟน

 

ภุชพงค์ โนดไธสง เกิดเมื่อ 15 สิงหาคม 2508

 

ศิษย์เก่าโรงเรียนกำแพงเพชรพิทยาคม จบปริญญาตรี 2 ใบ “นิติศาตร์-รัฐศาสตร์”จากม.รามคำแหง

 

เส้นทางอาชีพผ่านหลายสังกัด เริ่มที่กองทัพอากาศ ย้ายมากรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท กระทรวงมหาดไทย

 

ข้ามไปกรมทรัพยากรนํ้า กระทรวงทรัพยฯ แล้วมาอยู่สำนักงานปลัด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เป็นอธิบดีกรมอุตุฯ ผอ.สำนักงานสถิติแห่งชาติ จนถึงรองปลัดดีอีเอส.
 

 

และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สดช.)

 

ขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อให้คนทุกกลุ่ม สามารถเข้าถึงได้ เพื่อขยายผลสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้ประเทศได้เติบโตทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและสังคม

 

สู่การพัฒนาดิจิทัลระยะที่ 3 : Full Digital Transformation ในปี พ.ศ.2570 และเตรียมประเทศไทยพร้อมก้าวเข้าสู่ระยะที่ 4 ผู้นำดิจิทัลแถวหน้าของโลก

 

ภุชพงค์ โนดไธสง

 

เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สดช.)

หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,845 วันที่ 18-21 ธันวาคม พ.ศ.2565