โครงการ F1 ในไทย ถือเป็นการผลักดันของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ต่อเนื่องมาถึง นายกฯ แพทองธาร ขณะที่ MotoGP ถูกขับเคลื่อนโดย องคาพยพของภูมิใจไทย
หลังเกิดกระแสในระหว่างการแข่งขัน ThaiGP ที่ปิดฉากไปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา ทั้งการให้ข่าวจาก “เนวิน ชิดชอบ” ประธานสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่สื่อตีความไปว่า ไทย(บุรีรัมย์) อาจจะไม่ได้ไปต่อกับ MotoGP และโยนการตัดสินใจนี้ไปที่รัฐบาล
สำหรับ MotoGP ในประเทศไทย ปีหน้า 2026 สัญญาการเป็นเจ้าภาพจะสิ้นสุดลง จึงมีคำถามว่า รัฐบาลจะต่อสัญญาให้มีการแข่งขันต่อไปหรือไม่ในฤดูกาล 2027-2029 (ต่อสัญญาครั้งละ 3 ปี) เพราะที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย มุ่งมั่นไปทางการแข่งขัน F1 เสียมากกว่า
MotoGP จัดครั้งแรกในไทยตั้งแต่ปี 2018 สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในช่วงก่อนและระหว่างการแข่งขัน เพียงแต่มีคำถามว่า ทำไมต้องไปลงที่ จ.บุรีรัมย์ บ้านของ เนวิน ชิดชอบ
ดังนั้น ต้องถามกลับว่า ถ้า ThaiGP ไม่จัดที่ จ.บุรีรัมย์ แล้วจะไปที่ไหน ที่มีความพร้อมของสนามแข่งรถทางเรียบระดับ FIA เกรด 1
ขณะที่ จ.บุรีรัมย์ ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา สามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง การเดินทาง โรงแรม ร้านอาหาร ตลอดจนผู้คนในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียง มีความเข้าใจในการใช้ชีวิต และหารายได้ จากอีเวนต์ระดับโลกนี้เป็นอย่างดี
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจหลังจบการแข่งขันปีนี้ ว่า มีผู้เข้าร่วมงาน 224,634 คนเงินสะพัด 5,043 ล้านบาท สามารถสร้างงานได้ 7,772 ตำแหน่ง
ล่าสุด “เนวิน ชิดชอบ” มั่นใจว่า รัฐบาลจะต่อสัญญาการแข่งขัน MotoGP ในไทยต่อไป
“บุรีรัมย์ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาล ใช้สนามแข่งขันและอุปกรณ์ทุกชนิดในสนามฟรี เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ การใส่ใจทุกรายละเอียด ทุกกิจกรรม ให้นักท่องเที่ยว และแฟนๆ ทุกคนมีความสุข และประทับใจ มากที่สุด เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เป็นลำดับแรก”
ขอขอบคุณ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร กรุณาให้คำตอบแก่แฟนๆ โมโตจีพี ว่ารัฐบาลพร้อมจะเดินหน้าจัดการแข่งขันต่อ โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำเสนอข้อมูลการจัดการแข่งขัน ว่า โมโตจีพี เป็นประโยชน์แก่ประเทศไทย หรือไม่ อย่างไร เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจ
...คำกล่าวส่วนหนึ่งของ นายเนวิน ชิดชอบ ที่โพสผ่านเฟซบุค
ทั้งนี้ จากกรณีที่ถูกมองว่าการที่ไม่ต่อสัญญา อาจเป็นเพราะสนามช้าง จ.บุรีรัมย์ เป็นของ เนวิน ชิดชอบ และถูกมองเป็นเรื่องของการเมือง
ประเด็นนี้ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ ว่า ในเรื่องของรายได้ ถ้าหากมีเม็ดเงินไหลเข้าก็เข้าในส่วนของจังหวัด เข้าประเทศ ถึงแม้ใครจะเป็นเจ้าของถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศได้อะไรบ้างในส่วนนี้คือสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณา ซึ่งในเรื่องการดำเนินการบางครั้งเอกชนกับภาครัฐจะต้องดำเนินการควบคู่กันไป และจะต้องมีการพิจารณาดูในเรื่องของรายละเอียด และความสมเหตุสมผลกันอีกครั้ง
“การต่อสัญญาโมโตจีพี ได้สั่งการไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดำเนินการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังต้องมีการพูดคุยกันอีกทีหนึ่ง และดูในเรื่องของตัวเลขว่าประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์อย่างไร” นายกรัฐมนตรี กล่าว
…พิจารณาในทุกมิติ MotoGP กับบุรีรัมย์ มีโอกาสได้ไปต่อ ส่วนการแข่งขัน F1 ที่สเกลใหญ่กว่า ซึ่งการพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องในแผนงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน พบว่ารายละเอียดต่างๆ ยังเบาบาง ห่างไกลความจริงมาก
ประเด็นสำคัญคือ รัฐบาลต้องการจัดในกรุงเทพฯ และแข่งบนท้องถนนจริง(สตรีท เซอร์กิต) ปั้นโครงการนี้ไม่ง่าย มีเงินอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะทำให้เกิดได้