หลังจาก “นิสสัน มอเตอร์” ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่น ประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ หลังประสบปัญหายอดขายตกในตลาดสำคัญอย่างจีนและสหรัฐอเมริกา โดยจะเลิกจ้างพนักงาน 9,000 คน และลดกำลังการผลิตทั่วโลกลง 20% เพื่อลดต้นทุนราว 88,400 ล้านบาท
ทำให้ “นายมาโกโตะ อูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร” ประกาศลดเงินเดือนตัวเองลง 50% พร้อมเปิดเผยว่าบริษัทกำลังเผชิญความท้าทายในตลาดสำคัญ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่บริษัทพลาดการคาดการณ์กระแสความนิยมรถยนต์ไฮบริด ขณะที่ในจีนต้องเผชิญการแข่งขันรุนแรงจากผู้ผลิตในประเทศ
ผลกระทบจากการประกาศครั้งนี้แน่นอนว่า ทำให้ราคาหุ้นนิสสันในตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงถึง 10% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีที่ 383.5 เยน นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับลดคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานประจำปีลงถึง 70%
“ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบข้อมูลจาก ระบบ data warehouse ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดวันนี้ (8พ.ย.67) ในส่วนของผลประกอบการและยอดยายรถยนต์ย้อนหลังพบว่า “บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด” กลับสามารถทำกำไรสุทธิ 1,503 ล้านบาทในปี 2567 หลังจากขาดทุนต่อเนื่อง 4 ปี
แม้ว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศไทยจะดิ่งลง 43% เหลือเพียง 7,968 คันในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 สวนทางกับบริษัทแม่ในญี่ปุ่นที่กำลังเผชิญวิกฤตหนัก
จากการวิเคราะห์งบการเงิน พบว่า นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) พลิกฟื้นผลประกอบการมาจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยเฉพาะการบริหารต้นทุนและสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สะท้อนจากการที่รายได้หลักเพิ่มขึ้น 11.15% เป็น 100,757 ล้านบาท ขณะที่สามารถควบคุมต้นทุนขายให้เพิ่มขึ้นเพียง 8.54% และค่าใช้จ่ายขายและบริหารเพิ่มขึ้นเพียง 1.19%
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับลดขนาดองค์กรอย่างมีนัยสำคัญ โดยลดสินทรัพย์ถาวรลง 27.92% และลดหนี้สินรวมลง 13.23% เหลือ 30,216 ล้านบาท พร้อมกับเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 411.74% เป็น 1,869 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการเสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้างทางการเงิน
ปี 2567 (ปีปัจจุบัน)
ปี 2566
ปี 2565
ปี 2564
ปี 2563
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขยอดขายรถยนต์ที่ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 จาก ที่เคยขายได้ 64,414 คัน เหลือเพียง 7,968 คันในปัจจุบัน ซึ่งเท่ากับว่ายอดขายลดลงถึง 88% ในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความท้าทายในการแข่งขันของตลาดรถยนต์ไทยที่รุนแรงขึ้น
ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ภาพลิขสิทธิ์ : Reuters