ตลาดรถยนต์ร่วง 25% กันยายน'67 สาหัสทำยอดขายต่ำสุดในรอบ 51 เดือน

11 ต.ค. 2567 | 10:38 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ต.ค. 2567 | 10:51 น.

ตลาดรถยนต์ปิดยอดขายเดือนกันยายน 2567 ประมาณ 39,000 คัน ซึ่งเป็นยอดต่อเดือนที่ต่ำที่สุดในรอบ 51 เดือน หลังจากวิกฤตโควิด19 ขณะที่ตลาดรวม 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ร่วง 25% โตโยต้า คาดตัวเลขรวมทั้งปีอาจไม่ถึง 6 แสนคัน

ตลาดรถยนต์เมืองไทยเดือนกันยายน 2567 ทำยอดขายได้ประมาณ 39,000 คัน ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่า 4 หมื่นคันครั้งแรกในรอบ 51 เดือน หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เดือนเมษายน 2563 มีตัวเลขแค่ 30,109 คัน

 

จากยอดขาย 39,000 คัน ถือว่าลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน นับตั้งแต่มิถุนายน 2567 ทั้งยังส่งผลให้ตลาดรวม 3 ไตรมาส ปิดตัวเลข 4.38 แสนคัน ลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ตลาดรถยนต์ร่วง 25% กันยายน\'67 สาหัสทำยอดขายต่ำสุดในรอบ 51 เดือน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์  โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปัจจัยที่มีผลกับยอดขายรถยนต์ในประเทศ มาจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนสูง โดยข้อมูลหนี้เสีย (NPL) รถยนต์ ไตรมาส 2 ปีนี้ สูงถึง 254,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.7 % จากไตรมาสสองปีที่แล้ว ตลอดจนเศรษฐกิจในประเทศเติบโตในอัตราต่ำที่ 2.3%

 

“ยอดการผลิตรถยนต์ลดลง 20% ขณะที่ยอดขายในประเทศ ลดลงเกือบ 25 % เนื่องจากไฟแนนซ์คุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเราคาดหวังว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล จะช่วยฟื้นฟูภาพรวมเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมไปถึงการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 ในเดือนตุลาคม จะทำให้เกิดการลงทุน และการจ้างงานมากขึ้น”

 

“ด้านยอดจดทะเบียนกลุ่มรถ EV พบว่า เดือนสิงหาคม 2567 ลดลง 3 % ส่วนตัวเลขสะสมตั้งแต่มกราคม - สิงหาคม ยังคงเติบโต 17% อย่างไรก็ตาม จากที่เคยประเมินว่าปีนี้ ยอดขาย EV อาจจะถึง 1 แสนคัน แต่สุดท้ายน่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาประมาณ 7.6 หมื่นคัน” นายสุรพงษ์ กล่าว

ทั้งนี้ ประเด็น EV ยอดขายต่ำกว่าที่คาดหมาย ยังสอดคล้องกับความเห็นของผู้บริหารโตโยต้า ว่า ยอดขาย EV ควรจะสูงกว่านี้ ด้วยการเข้ามาของผู้เล่นที่มากขึ้น ประกอบกับแผนผลิตในประเทศ แต่สุดท้ายยอดขายไม่ได้ขยายตัวอย่างที่คาดการณ์

ตลาดรถยนต์ร่วง 25% กันยายน\'67 สาหัสทำยอดขายต่ำสุดในรอบ 51 เดือน

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากกระแส EV ในปีที่ผ่านมา ทำให้ประเมินว่าตลาด EV ปี 2567 น่าจะมียอดขายเติบโต หรือมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 17% (จากตลาดรวม) แต่ตอนนี้คาดว่าจะทำได้เพียง 13%

 

“เราเห็นสัญญาณจากเซกเมนต์รถพรีเมียม ที่ยอดขายตก นั่นหมายความว่า ส่วนหนึ่งไม่ได้เกี่ยวกับไฟแนนซ์ กล่าวคือลูกค้ากลุ่มนี้ มีกำลังซื้อ แต่ชะลอการตัดสินใจออกไป จากสภาพเศรษฐกิจ หรือไม่มีอารมณ์จับจ่ายใช้สอย ขณะที่ตลาด EV ที่เคยมองว่าปีนี้จะเติบโต จากการมีโปรดักต์ใหม่ๆ พร้อมผู้เล่นเยอะขึ้น แต่กลายเป็นว่ายอดขายไม่ได้สูงมาก ซึ่งลูกค้าส่วนหนึ่งอาจจะรอดูโปรโมชันช่วงปลายปี รอดูว่าจะลดราคาอีกหรือไม่”

 

สำหรับตลาดรถยนต์รวมปีนี้ เราเคยปรับเป้าหมายการขายใหม่(ช่วงกลางปี) ว่าจะเหลือ 6.5 แสนคัน แต่ถึงวันนี้ 6 แสนคันยังเหนื่อย เพราะยอดขายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ไม่ถึง 4 หมื่นคัน ซึ่งตลาดรถยนต์ไทย ไม่เคยมียอดขายต่อเดือนต่ำกว่า 4 หมื่นคันมานานแล้ว

ตลาดรถยนต์ร่วง 25% กันยายน\'67 สาหัสทำยอดขายต่ำสุดในรอบ 51 เดือน ตลาดรถยนต์ร่วง 25% กันยายน\'67 สาหัสทำยอดขายต่ำสุดในรอบ 51 เดือน

“ในส่วนโตโยต้า ยังพยายามรักษายอดขายตามเป้าหมาย ที่วางไว้ ล่าสุดเปิดตัว All new Toyota Camry ที่มีเฉพาะรุ่นไฮบริด HEV พร้อมแบ่งการขายเป็น 3 รุ่นย่อย โดยหลังจากเปิดพรีบุกกิ้งตั้งแต่วันที่ 1-9 ตุลาคม ที่ผ่านมา มียอดเข้ามาแล้ว 1,000 คัน” นายศุภกร กล่าว

All new Toyota  Camry เปิดราคาพิเศษช่วงแนะนำ สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถ ตั้งแต่วันที่ 10-31 ตุลาคม 2567 

  • SMART ราคาพิเศษ 1,455,000 บาท (ปกติ 1,475,000 บาท)
  • PREMIUM  ราคาพิเศษ 1,639,000 บาท (ปกติ 1,659,000 บาท)
  • PREMIUM LUXURY  ราคาพิเศษ 1,789,000 บาท (ปกติ 1,809,000 บาท)