ตลาดรถยนต์เมืองไทยเดือนกันยายน 2567 ทำยอดขายได้ประมาณ 39,000 คัน ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่า 4 หมื่นคันครั้งแรกในรอบ 51 เดือน หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เดือนเมษายน 2563 มีตัวเลขแค่ 30,109 คัน
จากยอดขาย 39,000 คัน ถือว่าลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน นับตั้งแต่มิถุนายน 2567 ทั้งยังส่งผลให้ตลาดรวม 3 ไตรมาส ปิดตัวเลข 4.38 แสนคัน ลดลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปัจจัยที่มีผลกับยอดขายรถยนต์ในประเทศ มาจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนสูง โดยข้อมูลหนี้เสีย (NPL) รถยนต์ ไตรมาส 2 ปีนี้ สูงถึง 254,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.7 % จากไตรมาสสองปีที่แล้ว ตลอดจนเศรษฐกิจในประเทศเติบโตในอัตราต่ำที่ 2.3%
“ยอดการผลิตรถยนต์ลดลง 20% ขณะที่ยอดขายในประเทศ ลดลงเกือบ 25 % เนื่องจากไฟแนนซ์คุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเราคาดหวังว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล จะช่วยฟื้นฟูภาพรวมเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมไปถึงการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 ในเดือนตุลาคม จะทำให้เกิดการลงทุน และการจ้างงานมากขึ้น”
“ด้านยอดจดทะเบียนกลุ่มรถ EV พบว่า เดือนสิงหาคม 2567 ลดลง 3 % ส่วนตัวเลขสะสมตั้งแต่มกราคม - สิงหาคม ยังคงเติบโต 17% อย่างไรก็ตาม จากที่เคยประเมินว่าปีนี้ ยอดขาย EV อาจจะถึง 1 แสนคัน แต่สุดท้ายน่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาประมาณ 7.6 หมื่นคัน” นายสุรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ประเด็น EV ยอดขายต่ำกว่าที่คาดหมาย ยังสอดคล้องกับความเห็นของผู้บริหารโตโยต้า ว่า ยอดขาย EV ควรจะสูงกว่านี้ ด้วยการเข้ามาของผู้เล่นที่มากขึ้น ประกอบกับแผนผลิตในประเทศ แต่สุดท้ายยอดขายไม่ได้ขยายตัวอย่างที่คาดการณ์
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากกระแส EV ในปีที่ผ่านมา ทำให้ประเมินว่าตลาด EV ปี 2567 น่าจะมียอดขายเติบโต หรือมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 17% (จากตลาดรวม) แต่ตอนนี้คาดว่าจะทำได้เพียง 13%
“เราเห็นสัญญาณจากเซกเมนต์รถพรีเมียม ที่ยอดขายตก นั่นหมายความว่า ส่วนหนึ่งไม่ได้เกี่ยวกับไฟแนนซ์ กล่าวคือลูกค้ากลุ่มนี้ มีกำลังซื้อ แต่ชะลอการตัดสินใจออกไป จากสภาพเศรษฐกิจ หรือไม่มีอารมณ์จับจ่ายใช้สอย ขณะที่ตลาด EV ที่เคยมองว่าปีนี้จะเติบโต จากการมีโปรดักต์ใหม่ๆ พร้อมผู้เล่นเยอะขึ้น แต่กลายเป็นว่ายอดขายไม่ได้สูงมาก ซึ่งลูกค้าส่วนหนึ่งอาจจะรอดูโปรโมชันช่วงปลายปี รอดูว่าจะลดราคาอีกหรือไม่”
สำหรับตลาดรถยนต์รวมปีนี้ เราเคยปรับเป้าหมายการขายใหม่(ช่วงกลางปี) ว่าจะเหลือ 6.5 แสนคัน แต่ถึงวันนี้ 6 แสนคันยังเหนื่อย เพราะยอดขายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ไม่ถึง 4 หมื่นคัน ซึ่งตลาดรถยนต์ไทย ไม่เคยมียอดขายต่อเดือนต่ำกว่า 4 หมื่นคันมานานแล้ว
“ในส่วนโตโยต้า ยังพยายามรักษายอดขายตามเป้าหมาย ที่วางไว้ ล่าสุดเปิดตัว All new Toyota Camry ที่มีเฉพาะรุ่นไฮบริด HEV พร้อมแบ่งการขายเป็น 3 รุ่นย่อย โดยหลังจากเปิดพรีบุกกิ้งตั้งแต่วันที่ 1-9 ตุลาคม ที่ผ่านมา มียอดเข้ามาแล้ว 1,000 คัน” นายศุภกร กล่าว
All new Toyota Camry เปิดราคาพิเศษช่วงแนะนำ สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถ ตั้งแต่วันที่ 10-31 ตุลาคม 2567