ฮอนด้า เล็งนำเข้า EV จีน ย้ายโรงงานผลิตรถยนต์ไปปราจีนบุรี ปี 2568

จากสภาพแวดล้อมและการแข่งขันในธุรกิจรถยนต์เปลี่ยนไป ทำให้ค่ายญี่ปุ่นที่ครองตลาดอยู่เดิม ต้องปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ เช่น ซูซูกิ มอเตอร์ เตรียมปิดโรงงาน จ.ระยอง ภายในสิ้นปี 2568 แล้วหันไปนำเข้ารถมาทำตลาดทั้งหมด ขณะที่ค่ายอื่นๆ ปรับแผนโรงงานเช่นกัน และเตรียมนำเข้า EV จากจีนมาทำตลาด ทั้ง ฮอนด้าและ นิสสัน

ในส่วนฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ประกาศปรับแผนผลิตใหม่ เตรียมย้ายการผลิตรถยนต์ไปที่โรงงาน จ.ปราจีนบุรี ทั้งหมด ส่วน โรงงาน จ.อยุธยา หันไปทำชิ้นส่วน ปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงเตรียมการ และจะมีผลในปี 2568

สำหรับโรงงานฮอนด้า นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินงานมา 28 ปี ปัจจุบันผลิตรถยนต์ Honda Accord และ Honda CR-V ซึ่งการปรับแผนการผลิตครั้งนี้ ถือเป็นการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากทั้งสองโรงงานในปัจจุบัน เดินกำลังผลิตไม่เต็มที่ (ทำงาน 1 กะ ทั้งสองโรงงาน)

หนึ่งในดีลเลอร์รายใหญ่ของฮอนด้า ออโตโมบิล เปิดเผยฐานเศรษฐกิจ ว่า การเข้ามาของแบรนด์จีน ที่นำรถยนต์ไฟฟ้า EV เข้ามาตีตลาดไทย และทำสงครามราคา ส่งผลกระทบด้านยอดขายต่อแบรนด์ญี่ปุ่น ขณะเดียวกันด้วยสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยก็ชะลอตัว สถาบันการเงินคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ ทำให้การซื้อรถใหม่ยากมาก

"การมาของ EV จีนมีผลกับฮอนด้า และเดิมแบรนด์ผู้ผลิตญี่ปุ่นมองว่าจีนเข้ามาไทยได้เร็ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะเร็ว และมีแบรนด์มากขนาดนี้ เมื่อมารวมกับปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในตอนนี้ ทำให้ผู้ผลิตญี่ปุ่นต้องปรับตัว เพราะกำลังการผลิตที่มีอยู่ จะต้องทำอย่างไร จะลดต้นทุนในรูปแบบไหน"

ส่วนการโยกฐานการผลิตของฮอนด้าในครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าฮอนด้าจะย้ายฐานการผลิตไทย เนื่องจากโรงงานที่อยุธยา ได้ปรับเปลี่ยนมาผลิตชิ้นส่วนเพื่อป้อนประเทศต่างๆในอาเซียน โดยเฉพาะตลาดอินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่มีความต้องการชิ้นส่วนประกอบรถยนต์จำนวนมาก

"ฮอนด้ายังให้ความสำคัญต่อฐานการผลิตในประเทศไทย แต่ถ้าถามว่าจะลงทุนเพิ่มไหม คิดว่าในระยะใกล้ๆนี้คงไม่มี เพราะตอนนี้มี 2 โรงงานแล้ว แต่ตอนนี้ที่ต้องโยกไปปราจีนบุรี เพื่อลดต้นทุน ไปตั้งหลักก่อน และกลับไปวางแผนผลิตภัณฑ์เพื่อให้เกิดการแข่งขันได้ในอนาคต เพราะเรามองว่าแบรนด์ญี่ปุ่น อย่างไรก็คงไม่ยอมแพ้แบรนด์จีน แต่แค่ขอเวลาไปพัฒนาก่อน" แหล่งข่าวกล่าว

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ฮอนด้ายังไม่ได้เลิกผลิตแต่แค่ย้ายจากโรงงานอยุธยา ไปยังโรงงานปราจีนบุรี ในส่วนของซัพพลายเออร์ที่เดิมเคยป้อนให้โรงงานอยุธยาก็ต้องมีการพูดคุยกัน ขณะที่แรงงาน ถ้าพูดถึงตามกฎหมายก็มีสิทธิที่จะเลือกว่าจะตามไปที่โรงงานปราจีนบุรี หรือหากไม่ตามไปก็จะมีกฎหมายคุ้มครองตามสิทธิอยู่

ฮอนด้ายังคงยอดผลิตรถยนต์เท่าเดิม การย้ายสายการผลิตรถยนต์สำเร็จรูปไปรวมที่โรงงานปราจีนบุรี เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสม ทันต่อสถานการณ์ ยิ่งทำให้บริษัทดำรงอยู่ได้ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง และสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

“การย้ายโรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าจากพระนครศรีอยุธยา ไปรวมโรงงานอีกแห่งของบริษัทที่ปราจีนบุรีในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเพื่อลดต้นทุน และที่ผ่านมาโรงงานที่อยุธยา และที่ปราจีนบุรีมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนที่เป็นซัพพลายเออร์ผลิตป้อนอยู่แล้วทั้งสองที่ หากย้ายโรงงานไปผลิตรถยนต์ที่เดียวที่ปราจีนบุรี ในรถรุ่นที่ต้องใช้ชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์ที่เคยผลิตป้อนที่อยุธยา ก็อาจจะส่งจากที่นี่ไป เพราะระยะทางไม่ไกลมาก และหากผลิตได้คุณภาพและราคารับได้ก็อาจมีผู้ผลิตชิ้นส่วนส่วนหนึ่งย้ายฐานตามไปที่ปราจีนบุรี” นายสุรพงษ์ กล่าว