ส่องยอดขายรถม.ค.67 เช็คเลยยี่ห้อไหนขายดี 10 อันดับแรก
เจาะลึกยอดขายรถยนต์เดือนมกราคม 2567 เช็คเลยยี่ห้อไหนแบรนด์ใดขายดีสุด มียอดขายกี่คัน พร้อมคาดการณ์ตลาดรถไตรมาสแรกที่นี่
ภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศไทยดุเดือดตั้งแต่ต้นปี โดยค่ายญี่ปุ่นจัดหนักด้วยการอัดแคมเปญโปรโมชันลดแลกแจกแถม ทั้งมอบส่วนลดหลักแสน ผ่อนนาน ดอกเบี้ย 0 % หวังสู้ศึกกับรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์จีน ที่ได้รับความนิยมจนยอดขายพุ่งสูง โดยยอดขายรถยนต์ในเดือนมกราคม 2567 ตลาดรวมมียอดทั้งสิ้น 54,814 คัน ลดลง 16.4% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 23,412 คัน เพิ่มขึ้น 2.4% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 31,402 คัน ลดลง 26.5% และรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายที่ 17,938 คัน ลดลง 43.5%
ทั้งนี้สามารถตรวจสอบยอดขายของแต่ละยี่ห้อว่าขายได้กี่คัน แบรนด์ไหนที่ได้รับความนิยม 10 อันดับแรก ตรวจสอบได้เลยที่นี่
ยี่ห้อรถยนต์ขายดีในไทย10 อันดับแรกประจำเดือนมกราคม 2567
- โตโยต้า 17,526 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 26.3 %
- ฮอนด้า 8,298 คัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 17.4 %
- อีซูซุ 7,930 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 45.9 %
- บีวายดี 7,806 คัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 650.6 %
- ฟอร์ด 1,983 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 41.3 %
- มิตซูบิชิ 1,920 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 41.5 %
- เอ็มจี 1,511 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 32.3 %
- นิสสัน 1,003 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 41.0 %
- มาสด้า 788 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 41.9 %
- เกรท วอลล์ มอเตอร์ 670 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 19.6 %
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์มีแนวโน้มที่จะขยับตัวดีขึ้น เนื่องจากภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาประชาชนปี 2567 อาทิ มาตรการลดหย่อนภาษี “Easy E-Receipt” การปรับลดค่าไฟฟ้า และการยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยว ส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น และส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯรถยนต์หลายค่าย มีการกระตุ้นตลาด ด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นการส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์นี้
"ตามปกติเดือนมกราคม หรือช่วงไตรมาสแรก ยอดขายรถยนต์จะชะลอตัว โดยปัจจัยที่มีผลต่อตลาดรถในช่วงที่ผ่านมาคือผู้บริโภคกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังฟื้นตัวช้า ประกอบกับความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ที่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์"