กรมอนามัย ป้องกันโรคโนโรไวรัส หวั่นระบาดช่วงเทศกาล

16 ธ.ค. 2567 | 10:15 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ธ.ค. 2567 | 10:15 น.

กรมอนามัย หวั่น "โนโรไวรัส" ระบาดช่วงฤดูหนาว และเทศกาลที่มีคนจำนวนมาก แนะ ประชาชน ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ ก่อนและหลังทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ส่วน "ผู้ประกอบกิจการ" ขอให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำ มีการตรวจประเมินคุณภาพน้ำดื่ม น้ำใช้อย่างต่อเนื่อง 

นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงกรณีเกิดการระบาดของโรคอุจจาระร่วงของนักเรียนและครูบุคลากร 2 โรงเรียน ใน อ.แกลง จ.ระยอง พบผู้ป่วยรวม 1,436 ราย เป็นนักเรียน 1,418 ราย ครูและบุคลากร 18 ราย อันเกิดจากการติดเชื้อโนโรไวรัสที่ปนเปื้อนมากับ "น้ำและน้ำแข็ง" ที่บริโภคในช่วงสัปดาห์ของการจัดกิจกรรมกีฬาสี

โนโรไวรัส (Norovirus) มักจะแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กที่มีภูมิต้านทานน้อยกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว พบบ่อยตามโรงเรียน ภัตตาคาร โรงพยาบาล สถานที่เลี้ยงเด็ก รวมไปถึงรถหรือเรือท่องเที่ยว

โนไวรัส เป็นโรคติดต่อจากคนสู่คน สามารถติดต่อได้ง่าย จากการสัมผัสทางอาหาร น้ำดื่ม อากาศ การสัมผัส และการหายใจ เช่น การสัมผัสผู้ป่วยที่ติดเชื้อโนโรไวรัสโดยตรง

การสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโนโรไวรัส รวมถึงสภาพแวดล้อมไม่ถูกหลักสุขาภิบาล โดยโนโรไวรัสมีระยะฟักตัวสั้น 12-48 ชั่วโมงหลังการรับเชื้อ

นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย

อาการที่พบส่วนใหญ่ :

ผู้ป่วยมักมีอาการคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ปวดมวนท้อง ท้องเสีย มีไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และปวดเมื่อยตามร่างกาย อาการรุนแรงในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ บางรายอาจทำให้มีอาการขาดน้ำ จึงควรดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อทดแทนการเสียน้ำและเกลือแร่ 

คำแนะนำสำหรับประชาชนในการป้องกันจาก โนโรไวรัส

1) รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง 

2) ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด 

3) ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ก่อนและหลังทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

4) หลีกเลี่ยงดื่มน้ำที่ไม่สะอาด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำที่ไม่สะอาด 

คำแนะนำสำหรับหน่วยงาน-สถานประกอบกิจการ  

1) การเติมคลอรีนในถังพักน้ำดื่มและน้ำใช้ 

2) การตรวจประเมินคุณภาพน้ำใช้ น้ำดื่มอย่างต่อเนื่อง 

3) จัดให้มีจุดล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ที่เพียงพอ 

4) การให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพและส่งเสริมพฤติกรรมอนามัยส่วนบุคคลที่ดีสำหรับการป้องกันโรค 

สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถตรวจแนะนำและออกคำสั่งให้ผู้ประกอบกิจการปรับปรุงแก้ไขด้านสุขลักษณะของสถานประกอบกิจการ การสุขาภิบาลและสุขวิทยาส่วนบุคคลของคนงาน