สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคผิวแห้งเกล็ดปลา (Ichthyosis vulgaris) เป็นโรคที่มักมีอาการกำเริบในช่วงฤดูหนาว ประชาชนควรทาครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและหมั่นสังเกตอาการของตนเอง หากมีอาการผิวแห้งเกล็ดปลาควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นายแพทย์สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคผิวแห้งเกล็ดปลา (Ichthyosis vulgaris) เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยที่สุดในกลุ่มโรคหนังเกล็ดปลา (Ichthyosis) โดยพบได้ประมาณ 1% ของประชากรทั่วไป
นายแพทย์วีรวัต อุครานันท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า การวินิจฉัยโรคผิวแห้งเกล็ดปลา(Ichthyosis vulgaris) ควรตรวจร่างกายหาอาการแสดงอื่น ๆ ของโรคผิวแห้งเกล็ดปลา (Ichthyosis vulgaris) และโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (Atopic Eczema) เนื่องจากอาจเป็นอาการแสดงหนึ่งในโรคภูมิแพ้ผิวหนัง โดยอาการที่พบ ได้แก่
1. มีเกล็ดสีเทาอ่อนครอบคลุมบริเวณขาและลำตัว เกล็ดมีขนาดเล็กและมักเว้นบริเวณขาหนีบและข้อพับ
2. มีรอยย่นบนฝ่ามือที่มากกว่าปกติ โดยลักษณะนี้ไม่ได้รับอิทธิพลจากฤดูกาลหรือความชื้น
3. ผู้ป่วยจำนวนมากมีอาการเหงื่อออกน้อยและไม่สามารถขับเหงื่อได้ดี
4. อาการอื่น ๆ ที่พบบ่อย ได้แก่ โรคขนคุด, โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ และโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้
ด้านนายแพทย์ชวลิต ทรัพย์ศรีสัญจัย นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ สถาบันโรคผิวหนัง ได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการป้องกันและการรักษา ดังนี้
1.ควรใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
2.หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นหรือร้อน
3.หากผู้ป่วยโรคผิวแห้งเกล็ดปลา (Ichthyosis vulgaris) มีโรคร่วม เช่น ผื่นผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ ควรรักษาด้วยยาทาสเตียรอยด์
ดังนั้น เมื่อพบภาวะโรคผิวแห้งเกล็ดปลา (Ichthyosis vulgaris) ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยและให้แนวทางการรักษาที่ถูกต้อง