สธ.เปิดลิสต์ กลุ่มเสี่ยงที่ต้อง "ฉีดวัคซีนโรคไอกรน" กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

13 พ.ย. 2567 | 16:20 น.
อัปเดตล่าสุด :13 พ.ย. 2567 | 18:31 น.

"รมว.สาธารณสุข สมศักดิ์ เทพสุทิน" ขออย่ากังวล ชี้เด็กไทยส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนไอกรนครบ ช่วยลดอาการรุนแรง สั่งเร่งคัดกรองผู้สัมผัสใกล้ชิด ให้ยาป้องกันในกลุ่มเสี่ยง แนะกลุ่มเปราะบางฉีดเข็มกระตุ้น ย้ำไม่ประมาทเฝ้าระวังจนถึงสิ้นปี

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกรณีที่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ประกาศหยุดการเรียนการสอน 2 สัปดาห์จากโรคไอกรนระบาดว่า  ได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ระยะแรก พบผู้ป่วยเป็นเด็กมัธยม 5 ราย ในช่วงวันที่ 16 ก.ย. – 25 ต.ค. โดยทุกรายฉีดวัคซีนครบ สงสัยการระบาดเริ่มจากทีมบาสเก็ตบอลของโรงเรียน

หลังจากการสอบสวนโรคเพิ่ม 4-8 พ.ย. พบอีก 20 ราย ซึ่งสำนักอนามัย กทม. และกรมควบคุมโรค ส่งทีมสอบสวนโรค หาปัจจัยเสี่ยง คัดกรองผู้ป่วย ผู้สัมผัสใกล้ชิด ติดตามผู้ป่วยให้ยาป้องกันในกลุ่มเสี่ยงประเมินสถานการณ์การระบาดร่วมกัน ประสานสถานศึกษาเพื่อคัดกรองและเฝ้าระวังผู้ป่วย

รวมถึงทำความสะอาดโรงเรียนตามมาตรฐานสุขอนามัยทั่วไป แต่ไม่จำเป็นต้องพ่นฆ่าเชื้อเนื่องจากโรคไอกรนแพร่กระจายผ่านละอองฝอยจากการไอจามเป็นหลักแต่ต้องจัดระบบระบายอากาศในห้องเรียนให้เหมาะสม

สธ.เปิดลิสต์ กลุ่มเสี่ยงที่ต้อง \"ฉีดวัคซีนโรคไอกรน\" กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

พร้อมกันนี้ ควรตรวจสอบประวัติการรับวัคซีนของนักเรียนและบุคลากร ประชุมวางแผนมาตรการกับทางโรงเรียน สื่อสารความเสี่ยง ปรับรูปแบบการเรียน ประสานหน่วยงานกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เพื่อเฝ้าระวังผู้ป่วยรายใหม่ และติดตามข้อมูลสถานการณ์ของผู้สัมผัสใกล้ชิดในเหตุการณ์นี้  จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.67 

"ผู้ปกครองไม่ต้องกังวลมากเกินไป เนื่องจากเด็กไทยส่วนใหญ่โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ได้รับวัคซีนครบถ้วน โอกาสเกิดโรครุนแรงจึงมีน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม โรงเรียนยังคงต้องเฝ้าระวังและคัดกรองนักเรียนที่มีอาการไออย่างต่อเนื่องเพราะระยะฟักตัวของโรคอาจนานถึง 21 วัน ช่วงนี้เป็นโอกาสดีที่ผู้ปกครองจะทบทวนประวัติวัคซีนของบุตรหลาน โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนกระตุ้นในเด็กวัยประถมปลายซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดโรครุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนะนำว่า ในทุกครั้งที่มีการเจ็บป่วยให้นำสมุดบันทึกการฉีดวัคซีนไปพบแพทย์ทุกครั้งเพื่อหารือ เผื่อในกรณีที่มียังได้รับวัคซีนไม่ครบหรือมีวัคซีนใหม่ ๆ ขึ้นมาจะได้เพิ่มโอกาสที่บุตรหลานจะได้รับการป้องกันโรคอย่างเหมาะสม 

โรคไอกรน คือ อะไร

โรคไอกรน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ในระบบทางเดินหายใจ ติดต่อผ่านการไอ จาม มีอาการคล้ายหวัดทั่วไปในช่วงแรก หลังจาก 1-2 สัปดาห์ จะไอรุนแรง ไอ เป็นชุด ๆ ในบางรายอาจหยุดหายใจ และเสียชีวิต

แนะกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไอกรนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

ดังนั้น กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบ ถุงลมอุดกั้น เฝ้าระวังอาการหากมีอาการเข้าได้ให้รีบไปพบแพทย์

กลุ่มที่เคยได้รับวัคซีนแล้ว เช่น เด็กโต กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวระบบทางเดินหายใจ ควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น

กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้ม ที่จะถ่ายทอดไปให้บุตรได้เนื่องจากวัคซีนไอกรนจะเริ่มให้เมื่อเด็กอายุ 2 เดือน

ดังนั้น ช่วงแรกเกิดถึง 2 ปี จะยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม ยังคงให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อลดการถ่ายทอดโรคเชื้อระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ รัฐสนับสนุนวัคซีนไอกรน ฉีดในเด็กทุกคน เข็มแรกตั้งแต่อายุ 2 เดือนต้องฉีดรวม 5 เข็มแต่ภูมิคุ้มกันจะลดเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น