ตามที่ประเทศไทยจะเป็นประธานและเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 23-26 สิงหาคม 2567 ที่ จ.บุรีรัมย์
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่ากระทรวงสาธารณสุขได้รับการประสานให้ดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุขตลอดการจัดประชุม ซึ่งได้เตรียมความพร้อมการดำเนินงานแล้ว 6 เรื่อง ได้แก่
1.การจัดทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์ประจำตามจุดต่าง ๆ คือ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ สถานที่จัดประชุม สถานที่พัก สถานที่ศึกษาดูงานและสถานที่จัดเลี้ยง ตั้งแต่วันที่ 22 – 27 สิงหาคม 2567 จากหน่วยปฏิบัติการ 11 แห่ง
พร้อมจัดหน่วย EMS 34 ทีม ในทีมมี แพทย์ 1 คน พยาบาลวิชาชีพ 2 คน เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ (AEMT) 1 คน พนักงานขับรถ 1 คน และหน่วยปฐมพยาบาล (AID) 26 ทีม ในทีมมีพยาบาลวิชาชีพ 2 คน และผู้ช่วยเหลือ 1 คน
2.แผนการส่งกลับสายการแพทย์ทั้งทางบกและทางอากาศ แบ่งเป็น 3 พื้นที่ คือ พื้นที่ กทม. ได้ประสานศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) สำนักการแพทย์ กทม. เตรียมความพร้อม
มีโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ เป็นโรงพยาบาลรับส่งต่อ, พื้นที่ระหว่างทางไปบุรีรัมย์ กรณีคณะผู้แทนต่างประเทศเดินทางโดยรถยนต์ ได้เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลในเส้นทาง และพื้นที่บุรีรัมย์ได้เตรียมแผนทั้งในจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียงไว้รองรับ
4.การป้องกันควบคุมโรค ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) ทุกอำเภอ เฝ้าระวังโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคไข้เลือดออก โรคพิษสุนัขบ้า และโรคอาหารเป็นพิษ
5.งานอนามัยสิ่งแวดล้อม ได้ประสานเทศบาลเมืองบุรีรัมย์และเทศบาลตำบลอิสาณ อบรมและเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านสุขาภิบาลอาหาร จัดการขยะมูลฝอยในพื้นที่ตลอดการประชุมฯ รวมถึงกำกับตรวจสอบผู้สัมผัสอาหารในสถานที่ประชุม สถานที่พัก และสถานที่ศึกษาดูงาน
6. กิจกรรมอื่นๆ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ได้อบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานแก่คณะทำงานจัดประชุม
ทั้งนี้ สำหรับการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียนเป็นการหารือเชิงนโยบายเกี่ยวกับการจัดการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในกรอบอาเซียน อาเซียนบวกสาม และอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย นิวซีแลนด์ รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา
ภายใต้หัวข้อการประชุม "พลิกโฉมการศึกษาสู่ยุคดิจิทัล (Transforming Education to Fit in the Digital Era)" โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษา (ปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่ายในประเทศสมาชิกอาเซียน อาเซียนบวกสาม และสุดยอดเอเชียตะวันออก ได้แก่ ไทย พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา บรูไน จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย นิวซีแลนด์ รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา เข้าร่วม