กรมการแพทย์แผนไทยฯ ชู 5 สมุนไพร ใช้รักษาโรคช่วงหน้าฝน

02 ส.ค. 2567 | 14:20 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ส.ค. 2567 | 14:25 น.

กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะ 5 สมุนไพร ใช้รักษาอาการ "โรคผิวหนัง-โรคน้ำกัดเท้า" โรคที่มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน รวมถึงวิธีการรักษาตามศาสตร์ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย

ในช่วงนี้หลายจังหวัดของประเทศไทยมีปริมาณฝนตกชุกและบางพื้นที่มีน้ำท่วมขัง ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพที่สำคัญตามมาหลายโรคด้วยกันโดยเฉพาะประชาชนที่ต้องอาศัยอยู่บริเวณที่มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน คือ โรคผิวหนัง และ โรคน้ำกัดเท้า 

ทั้งนี้ นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า โรคดังกล่าวนั้นตามศาสตร์และภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยมีการนำสมุนไพรในครัวเรือนที่หาได้ง่าย 5 ชนิดซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป มาใช้รักษา โรคผิวหนัง และ โรคน้ำกัดเท้า ได้แก่ 

1.ขมิ้นชัน 

แก้คัน ยับยั้งเชื้อโรคและเชื้อราได้ดี โดยวิธีรักษาน้ำกัดเท้าด้วยขมิ้นชันให้นำแง่งขมิ้นชันมาฝนกับน้ำหรือตำกับน้ำแล้วนำมาชโลมแผลน้ำกัดเท้าก็ได้ 

2.ข่าแก่ 

เป็นยารักษาโรคผิวหนังติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคน้ำกัดเท้าได้ ข่ายังมีฤทธิ์ในการรักษากลากเกลื้อน และแก้ลมพิษได้ด้วย

การใช้ข่ารักษาโรคผิวหนัง สามารถใช้เหง้าข่าแก่เท่าหัวแม่มือตำให้ละเอียด แล้วผสมเหล้าโรงจนเข้ากันดี จากนั้นนำมาเป็นยาสำหรับทาแผลน้ำกัดเท้าหลาย ๆ ครั้งจนกว่าอาการจะทุเลาลง 

3.ใบพลู 

เป็นสมุนไพรรักษาโรคมาตั้งแต่สมัยโบราณซึ่งมีการนำใบพลูมาล้างสะอาด แล้วตำใบพลูผสมกับเหล้าขาวหรือแอลกอฮอล์ ใช้ทาแก้อาการคัน ลมพิษ หรือคั้นน้ำใบพลู มารักษาโรคกลาก เกลื้อน ฝี หนอง สิวและแผลอักเสบต่าง ๆ

โดยทางการแพทย์แผนปัจจุบัน พบว่า ใบพลูมีน้ำมันหอมระเหยที่เรียกว่า Betel oil ที่มีสรรพคุณยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบนผิวหนัง น้ำมันหอมระเหยที่มีในใบพลู ยังมีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังได้อีก

4.เปลือกมังคุดแห้ง 

เนื่องจากมีสารแทนนินมากมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและมีฤทธิ์ช่วยรักษาแผลน้ำกัดเท้าได้ นำเปลือกมังคุดแห้งมาฝนกับน้ำหรือน้ำปูนใสให้ข้นพอควร แล้วทาแผลน้ำกัดเท้า วันละ 2-3 ครั้งซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการน้ำกัดเท้าได้

5.ทองพันชั่ง 

มีสรรพคุณเด่น ๆ คือ การต้านเชื้อรา เนื่องจากพบสาร Diospyrol สารที่มีฤทธิ์รักษาเชื้อรา รักษากลาก เกลื้อน และต้านอาการผิวหนังอักเสบ โดยใช้ใบทองพันชั่งประมาณ 1 กำมือตำให้ละเอียด แล้วนำมาพอกหรือทาบริเวณที่เป็น วันละ 3-4 ครั้ง ติดต่อกันทุกวัน จนกว่าแผลจะหาย

ปัจจุบันมียาแผนไทยในบัญชียาหลักแห่งชาติที่รักษากลุ่มอาการทางระบบผิวหนังที่มักพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนซึ่งผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ยาสมุนไพรเพื่อให้สะดวกต่อการใช้ ได้แก่

ยาทิงเจอร์ทองพันชั่ง

  • สรรพคุณ: ทาแก้ กลาก เกลื้อน โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา น้ำกัดเท้า

ยาทิงเจอร์พลู

  • สรรพคุณ: บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบ อาการอักเสบจากแมลง กัด ต่อย

ยาเปลือกมังคุด

  • สรรพคุณ: ทาแผลสด และ แผลเรื้อรัง

ยาขี้ผึ้งพญายอ

  • สรรพคุณ: บรรเทาอาการอักเสบ ปวด บวม จากแมลง กัด ต่อย

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ และวิธีการใช้ยา ตามฉลากกำกับยาอย่างเคร่งครัด               

นพ.ขวัญชัย กล่าวว่า เพื่อป้องกันการเกิดโรคผิวหนังและโรคน้ำกัดเท้า ในช่วงฤดูฝนในกรณีถ้ามีความจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ หรือ แช่เท้าในน้ำเป็นเวลานาน ๆ ควรสวมรองเท้าบูธ และดูแลความสะอาดของเท้าอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะง่ามนิ้วเท้า ระวังอย่าให้เกิดการอับชื้น ควรสวมถุงเท้าที่สะอาดและไม่อับ

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยหรือการใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรคหรือบรรเทาอาการ ให้ปรึกษาแพทย์แผนไทยในสถานบริการสุขภาพของรัฐได้ทั่วประเทศ