ตรวจสาร THC ในอาหารผสมกัญชา ทำได้ง่ายแค่ 6 นาที ลดความเสี่ยงผู้บริโภค

27 ก.ค. 2567 | 13:25 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.ค. 2567 | 13:26 น.

ชุดตรวจปริมาณสาร THC ในกัญชาจากนักวิจัยจุฬาฯ รู้ผลเร็ว แม่นยำ เพียง 6 นที ช่วยผู้บริโภคลดความเสี่ยงจากการบริโภคสารให้โทษต่อร่างกาย

ดร.สุดเขต ไชโย นักวิจัยจากสถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ชุดตรวจวัดสารมึนเมา THC ในผลิตภัณฑ์ที่ผสมกัญชา เป็นการต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้เคยพัฒนาชุดตรวจ ATK ที่ทำงานร่วมกับเคมีไฟฟ้าสำหรับวินิจฉัยคัดกรองโรคโควิด-19 ซึ่งเป็น ATK ที่ผลิตโดยคนไทย ฉะนั้น จึงได้พัฒนานวัตกรรมสตริปเทสเคมีไฟฟ้าอย่างเร็ว สำหรับตรวจประเมินปริมาณ THC ด้วย และได้เป็นชุดตรวจ THC แบบพกพา ใช้ง่าย วัดค่าสารอันตรายได้ในระดับนาโน

ตรวจสาร THC ในอาหารผสมกัญชา ทำได้ง่ายแค่ 6 นาที ลดความเสี่ยงผู้บริโภค โดยโครงสร้างทางเคมีของ CBD และ THC ในกัญชาจะมีความคล้ายคลึงกัน อีกทั้งกัญชาแต่ละสายพันธุ์มีปริมาณสาร CBD และ THC ไม่เท่ากัน แต่สตริปเทสเคมีไฟฟ้าสำหรับตรวจประเมินปริมาณของ THC ก็มีความไวในการตรวจวัดค่า THC ได้อย่างแม่นยำ และใกล้เคียงกับการตรวจวิเคราะห์โดยใช้เทคนิค High Performance Liquid Chromatography (HPLC) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้ในการตรวจปริมาณ THC ชุดตรวจนี้จึงทำหน้าที่เป็นเซนเซอร์ที่ตรวจวัดปริมาณ THC ในอาหารหรือเครื่องดื่มได้อย่างรวดเร็วและมีความไวในการตรวจ แม้มีสาร THC ในปริมาณเพียง 1.3 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร

“แต่เดิมการตรวจวัดปริมาณ THC จะต้องทำในห้องปฏิบัติการด้วยเครื่องมือขนาดใหญ่และกระบวนการค่อนข้างซับซ้อน โดยมีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ตรวจคัดกรองสาร THC ในผลิตภัณฑ์กัญชา การคิดพัฒนาสตริปเทสเคมีไฟฟ้าขึ้นมา จะทำให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบสาร THC ในเบื้องต้นได้เอง เพื่อความมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้นในการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมกัญชา ซึ่งชุดตรวจนี้จะใช้หลักการเดียวกับ ATK ตรวจโควิด-19 จึงใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก เพียงเรานำสารสกัดจากกัญชาในอาหารหรือเครื่องดื่มไปผสมกับน้ำยาที่มีความจำเพาะกับสตริปเทส แล้วหยดลงบนสตริปเทสเพียงแค่ 2 หยด รอประมาณ 6 นาทีก็สามารถอ่านผลได้จากสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์” 

ตรวจสาร THC ในอาหารผสมกัญชา ทำได้ง่ายแค่ 6 นาที ลดความเสี่ยงผู้บริโภค สำหรับประสิทธิภาพของชุดตรวจ มาจากการบูรณาการสองศาสตร์เข้าด้วยกัน กล่าวคือการตรวจวัดที่รวดเร็วของแถบทดสอบอิมมูโนแอสเสย์แบบการไหลด้านข้าง และการตรวจวัดด้วยความไวสูงของเทคนิคทางเคมีไฟฟ้า โดยชุดตรวจมีแถบทดสอบเคมีไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่สะดวกต่อการพกพา ใช้ง่าย ราคาไม่แพง (ชิ้นละ 20 บาท) เป็นหนึ่งทางเลือกในการตรวจประเมินปริมาณ THC นอกห้องปฏิบัติการ เหมาะกับผู้ใช้งานในกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา และเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมปริมาณ THC ในผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา

ดร.สุดเขต กล่าวว่า สตริปเทสเคมีไฟฟ้านี้เป็นนวัตกรรมที่ได้รับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2567 จากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นตัวช่วยกรองให้ประชาชนไม่บริโภคสิ่งที่เป็นโทษเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ควบคุมปริมาณกัญชาให้อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายต่อร่างกายจากสาร THC อีกด้วย

ตรวจสาร THC ในอาหารผสมกัญชา ทำได้ง่ายแค่ 6 นาที ลดความเสี่ยงผู้บริโภค

“กัญชามีสารต่าง ๆ มากกว่า 400 ชนิด สารสำคัญที่มักถูกกล่าวถึงเสมอ ๆ มี 2 ชนิด ได้แก่ CBD (Cannabidiol) สารที่นำมาใช้ทางการแพทย์ในการรักษาโรค และ THC (Tetrahydrocannabinol) เป็นสารที่ให้โทษต่อร่างกาย ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการมึนเมา อาการหลอน และที่อันตรายอย่างยิ่งคือผู้ที่บริโภค THC ในปริมาณมากเกินค่ามาตรฐานและในกลุ่มผู้ที่มีอาการแพ้สาร THC อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้ ประกาศกระทรวงสาธารณสุขจึงได้กำหนดให้ปริมาณ THC ในอาหารและเครื่องดื่มต้องไม่เกิน 2% มิฉะนั้นจะถือว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นสารเสพติด”

นอกจากนี้ คณะผู้วิจัยจากสถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุศาสตร์ จุฬาฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาแพลตฟอร์มในรูปแบบสตริปเทสร่วมกับเคมีไฟฟ้าต่อไปเพื่อใช้ในทางการแพทย์อีกหลายด้าน เช่น การตรวจคัดกรองกามโรคในเบื้องต้น ซึ่งเป็นโรคที่วัยรุ่นไทยมีความเสี่ยงในการเกิดโรคและไม่กล้าไปปรึกษาแพทย์ รวมทั้งสตริปเทสร่วมกับเคมีไฟฟ้าในการตรวจคัดกรองผู้มีความเสี่ยงสูงในการเป็นโรคไข้หูดับจากการรับประทานเนื้อหมูดิบ เป็นต้น