‘CPHI South East Asia 2024’ เสริมแกร่งอุตสาหกรรมยา หนุนไทยสู่ Medical Hub

14 มิ.ย. 2567 | 11:09 น.
อัปเดตล่าสุด :14 มิ.ย. 2567 | 11:11 น.

“อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์” จัดใหญ่ CPHI South East Asia 2024 งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี นวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมยาแห่งเอเชีย มุ่งสร้างความมั่นคงทางการยา ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตอกย้ำไทย Medical Hub พบกับผู้ผลิตชั้นนำ จาก 21 ประเทศทั่วโลก ระหว่างวันที่ 10-12 ก.ค. 67 ณ ศูนย์สิริกิติ์

นางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ ภูมิภาคอาเซียน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ และผู้จัดการทั่วไป-ฟิลิปปินส์ ในฐานะผู้จัดงาน ซีพีเอชไอ เซาธ์ อีสต์ เอเชีย 2024 (CPHI South East Asia 2024) งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี นวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมยาแห่งเอเชีย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมยาในตลาดโลกและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวโน้มเติบโตสูง จาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

1. ประชากรหลายประเทศกำลังก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุ ส่งผลต่อความต้องการยาที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะยาสำหรับรักษาโรคเรื้อรัง

2. อัตราการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน มะเร็ง เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อความต้องการยาที่หลากหลาย

3. นโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในหลายประเทศจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามารับบริการทางการแพทย์ ซึ่งกระตุ้นความต้องการยา

‘CPHI South East Asia 2024’ เสริมแกร่งอุตสาหกรรมยา หนุนไทยสู่ Medical Hub

สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระบบสุขภาพในประเทศมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับ ระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ โครงสร้างประชากร และนโยบายด้านสุขภาพ เช่น ประเทศสิงคโปร์มีระบบเศรษฐกิจที่ก้าวหน้า มีระบบสาธารณสุข สังคมผู้สูงอายุ เหมือนกับประเทศไทย ส่วนประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มีสัดส่วนประชากรการเกิดใหม่สูงขึ้น และประเทศเมียนมา กัมพูชา และสปป. ลาว เจอปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรทางการแพทย์ จึงพึ่งพาการนำเข้ายาเป็นหลัก และส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศไทย

ในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังไม่มีใครเป็นผู้ผลิตยาระดับนานาชาติ (ยาที่มีสิทธิบัตร ได้แก่ ยาแก้มะเร็ง ยาแก้ลมชัก ยาที่ผลิตโดยบริษัทยาชั้นนำระดับโลกอย่าง Johnson & Johnson หรือ Pfizer) ปัจจุบันประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ผลิต “ยาสามัญ” เป็นหลัก โดยนำเข้าส่วนประกอบสำคัญ (API) มาจากประเทศจีน อินเดีย และบางประเทศในยุโรป โดยการใช้ยาแต่ละประเทศจะมีความคล้ายคลึงกันคือใช้ยาผ่านสิทธิในการรักษา

ขณะที่ประเทศไทยตลาดยามีมูลค่าราว 2.25 แสนล้านบาท จึงเป็นหนึ่งในตลาดเภสัชกรรมชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าทำให้ยามีราคาไม่สูงและเข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาดยาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น

‘CPHI South East Asia 2024’ เสริมแกร่งอุตสาหกรรมยา หนุนไทยสู่ Medical Hub

อีกทั้งรัฐบาลยังได้เสนอแผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการแพทย์ในเอเชีย (Medical Hub) เพื่อดึงดูดผู้ป่วยชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คาดว่าจะมีส่วนสนับสนุนอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ รวมทั้งเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง (MSMEs) ในภาคเภสัชกรรมที่จะเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจและการแข่งขันให้องค์กร

“ไทยมีศักยภาพในการเป็น Medical Hub จากจุดเด่นด้านบริการทางการแพทย์ที่มีข้อได้เปรียบเรื่องราคา การบริการที่ดี รวมทั้งคุณภาพของบุคลากร โดยเฉพาะแพทย์ทางเลือกและการดูแลฟื้นฟู ทำให้อุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยครบวงจร มีแนวโน้มการลงทุนสูงในอนาคต

ขณะที่ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้ายาจากต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 65% ของตลาดยาโดยรวม และมีเพียง 35% เท่านั้นที่เป็นการผลิตยาในไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมยาสำเร็จรูปหรือขั้นปลายน้ำ หรือเป็นการผลิตยาสามัญ โดยเป็นการผลิตลอกเลียนสูตรยาต้นตำรับหรือยาต้นแบบจากต่างประเทศที่หมดสิทธิบัตรไปแล้ว ส่วนการผลิตยาขั้นต้นน้ำ หรือยาค้นคว้าขึ้นมาใหม่ และการผลิตยาขั้นกลาง หรือการผลิตวัตถุดิบนั้นยังมีน้อยมาก”

อย่างไรก็ตาม การก้าวสู่ Medical Hub ที่ประสบความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องอาศัยการส่งเสริมการลงทุนอย่างมีกลยุทธ์ โดยเฉพาะในยาชีวภาพ ยาชีววัตถุที่คล้ายคลึง (BioSimilar) เทคโนโลยีชีวภาพ และ อุปกรณ์ทางการแพทย์การมุ่งเน้นไปที่ ยาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องพัฒนาโรงพยาบาล ให้ได้มาตรฐานสากล ประเทศไทยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากมาย แต่จำนวนที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นจึงต้องมีการลงทุน พัฒนาทรัพยากรบุคคล เพิ่มเติม

‘CPHI South East Asia 2024’ เสริมแกร่งอุตสาหกรรมยา หนุนไทยสู่ Medical Hub

“การลงทุนด้านนวัตกรรม การวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีต่างๆ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ปัจจุบันประเทศไทยยังผลิต เครื่องมือแพทย์ ในราคาต่ำ เช่น เตียง สายตรวจ Mask ถุงมือ แต่ยังขาดการผลิต อุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีสูง เช่น เครื่องมือผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ จอภาพสำหรับติดตามสัญญาณชีพ ด้านยาประเทศไทยมีความเป็นผู้นำในการผลิตยาสามัญทั่วไป แต่ยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาไปสู่การผลิต ยาที่มีความซับซ้อนสูง เช่น ยาชีวภาพ เป็นต้น”

นางสาวรุ้งเพชร กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดงาน “CPHI South East Asia 2024” งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี นวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมยาแห่งเอเชีย ในครั้งนี้เป้าหมายสำคัญ คือ การร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความมั่นคงทางการยาของประเทศไทย เพื่อช่วยขับเคลื่อนสุขภาพและเศรษฐกิจให้ก้าวไปสู่การเป็น Medical Hub ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยมาตรฐานการผลิตยาในประเทศไทยนั้นมีมาตรฐานในระดับสากลพร้อมแข่งขันในการเป็นผู้ผลิตยาสู่ตลาดต่างประเทศ

ซึ่งในปีนี้มีการจัดแสดงงานคู่กับ “Medlab Asia & Asia Health 2024” เพื่อให้ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมยา อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ เครื่องมือแพทย์ และการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร ซึ่งงาน “CPHI South East Asia 2024” และ“Medlab Asia & Asia Health 2024” จะเป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงศักยภาพของภาคส่วนในอุตสาหกรรมยาไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในสายตาของนานาชาติ ภายใต้คอนเซปท์ International Healthcare Week ที่มุ่งเน้นการสร้างศักยภาพการพัฒนาระบบและการดูแลสุขภาพครบวงจร

‘CPHI South East Asia 2024’ เสริมแกร่งอุตสาหกรรมยา หนุนไทยสู่ Medical Hub

โดยภายในงาน CPHI South East Asia 2024 จะรวบรวมผู้นำในอุตสาหกรรมเภสัชกรรม พร้อมการจัดแสดงนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ยา โดยมีผู้เข้าชมงานจากหลายกลุ่มอาชีพและจากหลายประเทศในภูมิภาคนี้ ทั้งนักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัย ผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องจักร ผู้ผลิตวัสดุบรรจุภัณฑ์เภสัชกรฝ่ายผลิต และอีกมากมาย ไว้สำหรับผู้ประกอบการยาไทยในการขยายตลาดและสร้างโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในประเทศไทยและกว่า 21 ประเทศทั่วโลก เช่น กัมพูชา จีน พม่า มาเลเซีย ลาว เวียดนาม ฮ่องกง เป็นต้น

“งาน CPHI South East Asia 2024 นั้น เปรียบเสมือน “ศูนย์รวมผู้ขาย API ชั้นนำ” ผู้ประกอบการไทยจะได้พบกับนวัตกรรมล่าสุดในการผลิตยาจากทั่วโลก เปิดโอกาสให้เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ และขยายโอกาสทางธุรกิจ งานนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจว่า ยาไทยมีคุณภาพส่งผลต่อความมั่นคงทางการยา ของประเทศในระยะยาว

จึงอยากเชิญผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนร่วมสัมผัส ประสบการณ์และเทคโนโลยีล้ำสมัยในอุตสาหกรรมยา พร้อมคว้าโอกาสทางธุรกิจใหม่ ก่อนใครได้ที่ งาน CPHI South East Asia 2024 งานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และการประชุม ด้านอุตสาหกรรมการผลิตยาครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดขึ้นในวันที่ 10- 12 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์”

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,000 วันที่ 13 - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2567