อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์-พันธมิตร รุกดันภาคการผลิตไทยสู่เป้า "Net Zero Carbon"

28 มี.ค. 2567 | 12:56 น.
อัปเดตล่าสุด :28 มี.ค. 2567 | 12:56 น.

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์-พันธมิตร รุกดันภาคการผลิตไทยสู่เป้า "Net Zero Carbon" มุ่งส่งเสริมความพร้อมแก่นักอุตสาหกรรมสำหรับการมาของมาตรการ CBAM เดินหน้ายกระดับประสิทธิภาพการผลิต เทคโนโลยีการผลิตพลาสติกและยาง

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า เพื่อตอบรับเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการผลิตสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) และส่งเสริมความพร้อมแก่นักอุตสาหกรรมสำหรับการมาของมาตรการ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) 

ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญที่จะส่งผลต่อการส่งออกสินค้าไปสู่ยุโรป และเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการไทยเลี่ยงไม่ได้ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ฯ จึงได้ดำเนินการร่วมมือกับภาครัฐ และเอกชนจัดงาน อินเตอร์แมค 2024 : INTERMACH 2024 ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรกล 

และอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมชั้นนำของอาเซียน ภายใต้แนวคิด Bridging Manufacturing Solution Towards Net Zero Carbon และพลาสติกแอนด์รับเบอร์ ไทยแลนด์ 2024 : Plastics & Rubber Thailand 2024 งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมพลาสติกและยางแห่งอาเซียน ภายใต้แนวคิด Step to Net Zero Carbon 
 

ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นผู้เล่นรายสำคัญในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและเครื่องจักรที่ทันสมัยของภูมิภาคและระดับโลก ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมพลาสติกและยางไทยก็มีบทบาทสำคัญในตลาดโลก 

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์-พันธมิตร รุกดันภาคการผลิตไทยสู่เป้า "Net Zero Carbon"

โดยไทยเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกและยางชั้นนำในตลาดสำคัญ เช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดีย และภูมิภาคอาเซียน ฯลฯ ซึ่งอุตสาหกรรมพลาสติกและยาง ยังเป็นส่วนสำคัญที่สนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมปลายทาง อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ การก่อสร้าง และพลังงานสะอาด เป็นต้น

"อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันยานยนต์ สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย และสมาคมอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ไทย รวมไปถึงอีกกว่า 40 องค์กรพันธมิตร เพื่อทำให้นักอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ ตั้งแต่ขนาดใหญ่จนถึงขนาดย่อมให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี และโซลูชั่นการผลิต เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงเทคโนโลยีในการผลิตพลาสติกและยางอย่างครบครัน ตลอดจนองค์ความรู้และนวัตกรรม เพื่อเสริมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในการลดมลพิษจากกระบวนการผลิตตามแนวคิดแห่งความยั่งยืน"

นอกจากนี้ ยังได้จัดงานร่วมกับซับคอนไทยแลนด์ 2024 ซึ่งเป็นงานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและการจับคู่ธุรกิจชั้นนำของอาเซียน และไทร์เอ๊กซ์โป เอเชีย 2024 (TyreXpo Asia 2024) งานอุตสาหกรรมยางล้อระดับนานาชาติแบบครบวงจร เพื่อเชื่อมโอกาสใหม่ให้ผู้ประกอบการไทย และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยจะมีนักอุตสาหกรรมมากกว่า 47,000 ราย

ดร.ประพิณ อภินรเศรษฐ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย (TARA) กล่าวว่า การนำระบบอัตโนมัติมาปรับใช้ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตมีความสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

การปรับใช้ระบบอัตโนมัตินี้จำเป็นต้องครอบคลุมทั้งระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ในสายการผลิต ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารจัดการการผลิตและองค์กร การเชื่อมต่อข้อมูลขึ้นสู่ Cloud Computing ข้อมูลเหล่านี้จะทำให้โรงงานนั้น ๆ สามารถวัดผลผลิตและของเสีย ซึ่งจะนำไปสู่การปรับปรุงสายการผลิตให้ลดความผิดพลาด และผลพลอยได้ก็คือการลดจำนวนของเสีย และการลดลงของคาร์บอนในสายการผลิต

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ได้มาร่วมแสดงในงานพลาสติกแอนด์รับเบอร์ไทยแลนด์ โดยมุ่งแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ GC ที่มุ่งสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 

ซึ่ง GC เป็นผู้ดำเนินธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ที่ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

"งานผลักดันภาคอุตสาหกรรมไทยสู่อีกขั้นของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ จะมีระหว่างวันที่ 15 – 18 พฤษภาคม 2567 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 45,000 คน"