JSP รุกตลาดตอบโจทย์ผู้สูงวัย เปิดโมเดลธุรกิจคลินิกฟอกไตใกล้ชุมชุน

07 มิ.ย. 2567 | 16:42 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มิ.ย. 2567 | 18:03 น.

JSP เดินหน้าบุกตลาดกลุ่มผู้สูงวัย ตั้งเป้าปี 2567 ทำรายได้ 800 ล้านบาท และผลักดัน "เกรซ วอเทอร์ เมด" ผู้ผลิตน้ำยาฟอกไต ตอบโจทย์การฟอกไตใกล้ชุมชน พร้อมขยายโมเดล “ตู้ยาเวนดิ้ง” 1,000 ตู้

นายพิษณุ แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานขายและการตลาด บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 13 ล้านคน คิดเป็น 19% ของประชากรทั้งหมด ถือว่าได้ก้าวเข้าสู่ "สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์" (Aged Society) already โดยคาดการณ์ภายในปี 2573 จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและมีประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด กลายเป็น "สังคมสูงอายุระดับสุดยอด"(Super-Aged Society) และยังพบแนวโน้มคนไทยอายุยืนมากขึ้น ฉะนั้น JSP จึงเข้ามาจับตลาดกลุ่มนี้อย่างเต็มรูปแบบ

โดยปี 2567 ได้ปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ด้วยการเพิ่มงบการตลาด 20% จากปี 2566 รวมเป็น 50 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นไปยังตลาดกลุ่มผู้สูงวัยเป็นหลักซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 80% ถัดมาคือกลุ่มวัยทำงาน ซึ่งในครึ่งปีแรกของปี 2567 ได้ใช้งบการตลาดไปแล้ว 10 ล้านบาท และได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าผู้สูงวัยเกิรกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ 5 เดือนแรก บริษัทมียอดขายประมาณ 300 ล้านบาท และจากแนวโน้มที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทปรับเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 800 ล้านบาท

ทั้งนี้ JSP จะไม่เน้นการตลาดแบบขายสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่จะขยายไปสู่ภาคบริการ ด้วยการยกระดับบริการของธุรกิจในเครือที่มีอยู่ให้กลายเป็นตัวทำรายได้ที่สำคัญของบริษัทควบคู่กันไป เริ่มจากเน้นการนำสินค้าเข้าไปขายผ่านบริษัท เกรซ วอเทอร์ เมด จำกัด (GWM) บริษัทลูกของ JSP ที่ดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตน้ำยาล้างไต (A-B Solution) เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาสำหรับผู้ป่วยฟอกไต เครื่องฟอกไตเทียม เข็มต่อสายฟอกเลือด และอุปกรณ์การแพทย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเลือด 

JSP รุกตลาดตอบโจทย์ผู้สูงวัย เปิดโมเดลธุรกิจคลินิกฟอกไตใกล้ชุมชุน

นอกจากนี้ GWM ยังถือหุ้นในบริษัท วารี เมดิคอล จำกัด ดำเนินธุรกิจการติดตั้งระบบน้ำ และจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องกรองน้ำและติดตั้งระบบน้ำบริสุทธิ์ให้ศูนย์ฟอกไตของ GWM และลูกค้าทั่วไป โดย JSP จะใช้กลยุทธ์การผลิตอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยโรคไตโดยเฉพาะ เพื่อไปวางจำหน่าย ในศูนย์ฟอกไตที่ GWM มีเครือข่ายอยู่ในปัจจุบันมากกว่า 100 ศูนย์

"คนไทยป่วยเป็นโรคไตหรือไตเสื่อมประมาณ 1 ล้านคน ในจำนวนนี้ 2.2 แสนคน อยู่ในระยะสุดท้าย เข้ารับการฟอกไต 7 หมื่นคน -1 แสนคน โดยศูนย์ฟอกไตในประเทศไทยมีอยู่เพียง 1,200 แห่ง ในขณะที่ความต้องการมีมากกว่า 2,000 แห่ง นอกจากนี้บุคลากรทางการแพทย์ก็ยังไม่เพียงพอและมีความต้องการอีกเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันผู้ป่วยโรคไตมีความยากลำบากในการเลือกบริโภคอาหาร และการบริโภคอาหารได้ไม่กี่ประเภท ทำให้เกิดความจำเจ ซึ่งงานวิจัยจากต่างประเทศพบว่าการบริโภคอาหารมีผลต่อจิตใจของผู้ป่วย ฉะนั้น JSP ก็มีแผนที่จะผลิตอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต ที่มีรสชาติถูกปากคนไทย เพื่อมาช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีสภาพจิตใจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น"

นอกจากนี้ JSP จะดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างความยั่งยืนในสังคม ผ่านการเจาะกลุ่มแพทย์ที่มีความสนใจและมีศักยภาพในการเป็นศูนย์ฟอกไต ด้วยการทำธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์เกี่ยวกับศูนย์ฟอกไต น้ำยาฟอกไต และเวชภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยการดำเนินธุรกิจรูปแบบนี้จะทำให้ JSP สามารถเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของ JSP ได้ ขณะเดียวกันยังช่วยให้ประเทศไทยมีคลินิกฟอกไตมากขึ้น สามารถอยู่ใกล้ชิดชุมชน อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับผู้ป่วยได้ และหากกลยุทธ์ของ JSP ช่วยให้ชุมชนมีคลินิกฟอกไตได้อย่างทั่งถึง ก็จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับการดูแลผู้ป่วยได้อย่างมาก

นายพิษณุ กล่าวว่า บริษัท เกรซ วอเทอร์ เมด ยังตั้งเป้ารายได้จากการผลิตนำยาฟอกไตและเครื่องมือแพทย์ปี 2567 จำนวน 150 ล้านบาท ปัจจุบันให้บริการครอบคลุมศูนย์ไต 120 แห่ง มีเพิ่มขึ้นจาก ปี 2566 ที่มี 100 ศูนย์ คิดเป็น 10 % ของศูนย์ฟอกไตทั่วประเทศไทย โดยตั้งเป้าจะขยายศูนย์ฟอกไตเพิ่มขึ้น 10% จากยอดเดิมในทุกๆ ปี และบริษัทยังมีแผนมีเป้าหมายนำ บริษัท  เกรซ วอเทอร์ เมด เข้าจะจดทะเบียนในตลาด LiVEx ในปี 2568

JSP รุกตลาดตอบโจทย์ผู้สูงวัย เปิดโมเดลธุรกิจคลินิกฟอกไตใกล้ชุมชุน

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายโมเดล “ตู้ยาเวนดิ้ง” จากปัจจุบันที่ดำเนินการติดตั้งไปแล้ว 140-160 ตู้ ตามพื้นที่คอนโดระดับ B จนถึง B+ และภายในไตรมาส 3 ปี 2567 ช่วงเดือน กรกฎาคม-สิงหาคมนี้ จะติดตั้งให้ได้รวม 200 ตู้ โดยพื้นที่หลักจะยังคงเป็นในกรุงเทพฯ ที่มีทราฟฟิกคนเดินผ่านไม่ต่ำกว่า 500 คน/วัน เป็นโมเดลแบบเช่าพื้นที่ในรัศมี 300-400 เมตร ที่ไม่มีร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อ หากโมเดลนี้ประสบความสำเร็จจะขยายตู้ยาเวนดิ้งเพิ่มให้ถึง 1,000 ตู้ ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้