รามาฯ-ศิริราช ปักหมุด ห้างดัง รับเทรนด์ Health & Wellness บูม

13 ธ.ค. 2566 | 15:53 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ธ.ค. 2566 | 16:12 น.
2.8 k

ชี้เทรนด์ Health & Wellness บูมต่อเนื่อง จับตาโรงพยาบาลรัฐปรับแผน หันขยายบริการ จับกลุ่ม Gen H “รพ.รามาฯ” ปักหมุดพาราไดซ์ พาร์คจับลูกค้ากรุงเทพฯฝั่งตะวันออก “รพ.ศิริราช” ผนึกไอคอนสยาม เปิด SIRIRAJ H SOLUTIONS เสิร์ฟบริการ 16 คลินิกเฉพาะทางเอาใจคนรักสุขภาพรุ่นใหม่

 เทรนด์ธุรกิจ “Health & Wellness” เติบโตต่อเนื่องเห็นได้จากการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ๆ รวมไปถึงการขยายตัวของผู้ประกอบการเดิมที่มีอยู่ ข้อมูลจาก Global Wellness Institute คาดการณ์ว่าธุรกิจ “Health & Wellness” ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 เพิ่มขึ้นจาก 4.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2562 ความน่าสนใจของตลาด Health & Wellness ที่ยังบูมติดลมบน ณ ขณะนี้เมื่อโรงพยาบาลรัฐอย่าง รพ.ศิริราช และรพ.รามาธิบดี ตบเท้าชิงพื้นที่ศูนย์การค้าเปิดศูนย์การแพทย์เติมเต็มไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้าอย่างครอบคลุม

รามาฯ-ศิริราช ปักหมุด ห้างดัง รับเทรนด์ Health & Wellness บูม

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลหลัก เผชิญปัญหาเรื่องของความแออัดจากจำนวน

ผู้ใช้บริการที่หนาแน่น ส่งผลให้ทางโรงพยาบาลต้องมองหาพื้นที่เพื่อรองรับการให้บริการของประชาชน การเปิดศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรนอกพื้นที่โรงพยาบาลคือคำตอบ ในอนาคตเชื่อว่าหลาย ๆ โรงพยาบาลมีแนวโน้มขยายตัวออกมาเปิดศูนย์การแพทย์ในพื้นที่ศูนย์การค้ามากขึ้น

 “รามาฯ ให้บริการทางการแพทย์ภายใต้โมเดล Decentralized คล้ายกับธนาคารที่ Decentralized ไปมีสาขาย่อยต่าง ๆ ตามศูนย์การค้า เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ประชาชนต้องไปใช้บริการที่สาขาใหญ่ เพื่อลดความแออัดรอคิวเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก นำแนวคิดดังกล่าวมาปรับใช้เป็น Decentralized Medicine ซึ่งประชาชนสามารถรับบริการได้ที่ศูนย์บริการของโรงพยาบาลรามาธิบดีที่ศูนย์การค้าใหญ่ๆ อย่างเช่น ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค โดยไม่จำเป็นต้องเข้ามายังโรงพยาบาลรามาธิบดีที่พญาไท”

รามาฯ-ศิริราช ปักหมุด ห้างดัง รับเทรนด์ Health & Wellness บูม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รพ.รามาฯ ปักหมุดพาราไดซ์ พาร์ค เปิด 14 คลินิกรักษาตั้งแต่เด็กเล็กยันสูงวัย https://www.thansettakij.com/health/wellbeing/582460

 การจัดตั้ง Ramathibodi Health Space @Paradise Park หรือศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรนอกพื้นที่โรงพยาบาลภายใต้คอนเซปต์ “สร้างเสริมป้องกัน ดูแลรักษา บำบัดฟื้นฟู” ตั้งบนพื้นที่ทำเลทอง การเดินทางที่สะดวก เชื่อมโยงกับโครงข่ายเส้นทางคมนาคมหลัก อย่าง รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ผู้มาใช้บริการลงที่ สถานี สวนหลวง ร.9 ใช้ทางออกหมายเลข 2 และเชื่อมต่อเข้าศูนย์การค้าฯ รวมทั้งพื้นที่จอดรถภายในศูนย์การค้าฯ สามารถรองรับจำนวนมากบนพื้นที่ขนาด 1,818 ตารางเมตร ให้บริการ จากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาของโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้แก่ อายุรกรรม กุมารเวช กระดูกและข้อ สูติ-นรีเวช เวชศาสตร์ฟื้นฟู แพทย์แผนทางเลือก เป็นต้น

 รวมทั้งมีการให้บริการพื้นฐานทางหัตถการ ซึ่งการบริการของ Ramathibodi Health Space @Paradise Park ได้แก่ คลินิกตรวจสุขภาพ คลินิกอายุรกรรม คลินิกโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คลินิกควบคุมน้ำหนัก คลินิกกระดูกและข้อ คลินิกศัลยกรรม คลินิกระงับปวด คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู คลินิกพัฒนาการเด็กและวัยรุ่น คลินิกกุมารเวช คลินิกนรีเวช คลินิกฝากครรภ์ คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกแพทย์ทางเลือก บริการตรวจแมมโมแกรม บริการฉีดวัคซีน และบริการเจาะเลือด สำหรับการให้บริการสามารถรองรับผู้ป่วยได้ไม่ต่ำกว่า300 คนต่อวัน โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจะให้บริการตรวจในวันและเวลาตามที่กำหนด

รามาฯ-ศิริราช ปักหมุด ห้างดัง รับเทรนด์ Health & Wellness บูม

 

นายวิจักษณ์ ประดิษฐวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้มีลูกค้าที่มาใช้บริการที่พาราไดซ์ พาร์ค 3 - 4 หมื่นคนต่อวัน การเปิดให้บริการ Ramathibodi Health Space@Paradise Park ในเฟสแรกนี้ จะเป็นแมกเนตสำคัญที่สร้างทราฟฟิกให้มีลูกค้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าฯ เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันจะช่วยขยายและดึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้างขึ้นจากพื้นที่โดยรอบ เชื่อมโยงการบริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม Health & Wellness ขณะเดียวกันยังตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากับสินค้าและบริการที่มีครบครัน

 อีกหนึ่งความสำเร็จที่ พาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าในเครือ เอ็ม บี เค และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มีความตั้งใจที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนจำนวนมากในย่านศรีนครินทร์ และพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันออก

 ด้านนายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอซีเอส จำกัด กล่าวว่า ไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามไอคอนสยาม ผนึกความร่วมมือโรงพยาบาลศิริราช เปิดให้บริการ “SIRIRAJ H SOLUTIONS” ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและบูรณาการสมดุลชีวิต ขยายบริการด้านสุขภาพครบวงจรนอกพื้นที่โรงพยาบาลเป็น “แห่งแรก” บนพื้นที่ราว 2,902 ตารางเมตร ณ ชั้น 5 และชั้น 5M ของไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ฯ โดยมุ่งสร้างปรากฏการณ์ดูแลสุขภาพรูปแบบใหม่ในประเทศไทย โดยเปิด16 คลินิกบริการ อาทิ คลินิกอายุรศาสตร์ทั่วไป, คลินิกส่งเสริมสุขภาพ NCDs, ศูนย์ตรวจสุขภาพ, ศูนย์ฉีดวัคซีน ฯลฯ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในวงกว้าง ด้วยจุดแข็งมาตรฐานทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากศิริราช พร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่อ “ดูแลสุขภาพประชาชนก่อนการเจ็บป่วย” เน้นเลือกทำเลศักยภาพให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้ง่าย โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนก.ค. นี้เป็นต้นไป

 “SIRIRAJ H SOLUTIONS” เป็นอีกหนึ่งแม็กเนตสำคัญที่จะตอบโจทย์พฤติกรรมของคนที่ใส่ใจดูแลสุขภาพก่อนเกิดการเจ็บป่วย ซึ่งเป็นเทรนด์สำคัญที่เกิดขึ้นทั่วโลก สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้นแต่มีเวลาที่จำกัด ศูนย์นี้จึงเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่จะเข้ามาเติมเต็ม”

รามาฯ-ศิริราช ปักหมุด ห้างดัง รับเทรนด์ Health & Wellness บูม

ทำให้โครงการไอซีเอสตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าในวงกว้างเข้ามาใช้บริการในศูนย์สุขภาพฯ มากขึ้น ทั้งกลุ่มลูกค้าองค์กร สำนักงานต่างๆ ในไอคอนสยาม และไอซีเอส และย่านเจริญนคร, พนักงานของร้านค้าต่างๆ ในไอคอนสยาม และไอซีเอส, นักท่องเที่ยว, ลูกค้าทั่วไป รวมถึง GEN H (Health) กลุ่มคนรักสุขภาพ

รามาฯ-ศิริราช ปักหมุด ห้างดัง รับเทรนด์ Health & Wellness บูม

ทั้งนี้ไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ ได้ทยอยเปิดให้บริการทั้งส่วนของธุรกิจรีเทล และอาคารสำนักงานให้เช่า เป็นระยะมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะนี้ มีพันธมิตรร้านค้ามากกว่า 200 แบรนด์ดัง ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 54% จากช่วงที่เปิดตัวไป สะท้อนภาพการฟื้นตัวของกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เริ่มกลับมาคึกคัก เชื่อมั่นว่าภายในสิ้นปีนี้ จำนวนคนที่เข้ามาใช้บริการในไอซีเอสจะเพิ่มมากขึ้นอีก 50%

 ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในตลาด Health & Wellness ขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน เรื่องสุขภาพ เป็นเทรนด์ที่คนทั่วโลกกำลังให้ความสนใจอย่างมากในตอนนี้ แน่นอนว่า ปัจจัยหลักมาจากโควิดเป็นแรงหนุนทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจในการดูแลสุขภาพ ลงทุนเพื่อป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค นำมาสู่ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและโมเดลใหม่ ๆ มากมาย