ขยายเวลาทดสอบวัคซีนในลิงมาร์โมเส็ท เหตุจัดซื้อลิงไม่ทัน

16 พ.ค. 2566 | 16:05 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ค. 2566 | 16:08 น.

ครม.อนุมัติขยายระยะเวลาโครงการทดสอบวัคซีนในลิงมาร์โมเส็ท การศึกษาความปลอดภัยประสิทธิภาพวัคซีนแคนดิเดตซับยูนิตจากเดิมที่สิ้นสุดเดือนเม.ย. 66 ไปสิ้นสุดวันที่ 29 ธ.ค. 66  

16 พฤษภาคม 2566 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 ในคราวประชุม ครั้งที่ 5/66  และในคราวประชุม 6/66

ทั้งนี้ อนุมัติให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติขยายระยะเวลาโครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและทดสอบวัคซีนและเภสัชภัณฑ์ในลิงมาร์โมเส็ท (โครงการทดสอบวัคซีนในลิงมาร์โมเส็ท) จากเดิมที่สิ้นสุดเดือนเม.ย. 66 ไปสิ้นสุดวันที่ 29 ธ.ค.66  

สำหรับโครงการนี้มีกรอบวงเงินงบประมาณ 139.84 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายแล้ว 69.50 ล้านบาทหรือร้อยละ 49.71 โดยขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการก่อสร้าง

ประกอบกับมีความล่าช้าในการจัดซื้อและรับมอบลิงมาร์โมเส็ทจากผู้ค้าภายในประเทศที่อยู่ระหว่างเบิกจ่ายเงินสำหรับลิงมาร์โมเส็ท จำนวน 67 ตัว ส่วนการจัดซื้อจากต่างประเทศ 75 ตัว ประสบปัญหาการจัดหาสายการบินเพื่อขนส่งเข้ามาในประเทศ

พร้อมกันนี้ ครม. ได้อนุมัติให้ขยายระยะเวลาโครงการศึกษาความปลอดภัย(Safety) ความสามารถในการกระตุ้นภูมิ (Immunogenicity) และประสิทธิภาพ (Vaccine Efficacy) ของแคนดิเดตซับยูนิตวัคซีน

สำหรับป้องกันโรคโควิด-19 ที่ใช้พืชเป็นแหล่งผลิตในมนุษย์ระยะที่2a จากที่สิ้นสุดในเดือนมิ.ย. 66 เป็นสิ้นสุด วันที่ 29 ธ.ค. 66 โดยโครงการมีกรอบวงเงิน 211 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว 116.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 55.4  

โดยเหตุผลที่ต้องมีการขยายระยะเวลาโครงการเนื่องด้วยปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้โดยเฉพาะข้อมูลความปลอดภัยของการทดสอบวัคซีนระยะที่ 1 ของกลุ่มอาสาสมัครทั้ง 2 กลุ่ม เพื่อนำมาอ้างอิงเพิ่มเติมต่อการขออนุมัติดำเนินการทดสอบวัคซีนในระยะที่สูงขึ้น

ขณะที่การวิจัยและพัฒนาวัคซีนมีความซับซ้อนทางเทคนิคจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเพื่อให้วัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุด

ทั้งนี้ ครม.ได้อนุมัติให้จังหวัดเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญ รวม 99 โครงการ วงเงินรวม 422.55 ล้านบาท ประกอบด้วยให้ยกเลิก 35 โครงการใน 11 จังหวัด ขยายระยะเวลา 58 โครงการใน 18 จังหวัด และเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ 6 โครงการ ใน 5 จังหวัดตามลำดับ