13 กุมภาพันธ์ 2566 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. พร้อมด้วย ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการ อย. แถลงผลการปฏิบัติงานกรณีทลายเครือข่ายลักลอบนำเข้าเครื่องสำอางแบรนด์ไทยปลอมหลากยี่ห้อ และกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดัง ลวงขายผ่านแพลตฟอร์ม Shopee ตรวจยึดของกลางกว่า 70 รายการ มูลค่าความเสียหายกว่า 14 ล้านบาท
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก บริษัท เทพไทย โปรดัคท์ จำกัด พบผลิตภัณฑ์ยาสีฟันสมุนไพรยี่ห้อเทพไทยปลอม แพร่ระบาดในตลาดออนไลน์เป็นจำนวนมาก จากการสืบสวนทราบว่า มีการจำหน่ายยาสีฟันสมุนไพรเทพไทยปลอมบนแพลตฟอร์มช้อปปี้จริง
นอกจากนี้กลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิดมีการลักลอบนำสินค้าปลอมเข้ามาจากประเทศจีน จากนั้นนำมาเก็บไว้ที่โกดังเก็บสินค้าในพื้นที่เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เพื่อรอการบรรจุแล้วส่งขายให้กับลูกค้า
เปลี่ยนชื่อร้านมากกว่า 10 ครั้ง
กลุ่มผู้ต้องหามีลักษณะการกระทำความผิด คือ มักจะสับเปลี่ยนบัญชีที่รับโอนเงินค่าสินค้าและสถานที่จัดเก็บสินค้าอยู่ตลอด รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงชื่อร้านในแพลตฟอร์มช้อปปี้ โดยในระหว่างเดือนตุลาคม 2564 - ธันวาคม 2565 เกินกว่า 10 ครั้ง มีใช้รถขนส่งเอกชนในการจัดส่งสินค้าในลักษณะอำพราง ให้ตรวจสอบได้ยาก
ทั้งยังพบหลักฐานความเชื่อมโยงว่า มีร้านค้าออนไลน์ที่เครือข่ายดังกล่าวใช้ที่อยู่หน้ากล่องสำหรับจัดส่งพัสดุสำหรับการขายสินค้าในแพลตฟอร์ม ช้อปปี้ และลาซาด้ากว่า 18 ร้าน
ต่อมาในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับ อย. นำหมายค้นของศาลอาญาพระโขนง เข้าค้นสถานที่เก็บสินค้าในพื้นที่ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 จุด รายละเอียดดังนี้
1.บ้านเลขที่ 7/58 ซอยสุภาพงษ์ 1 แยก 12 แขวงหนองบอน เขตประเวศ ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บ และแพ็คสินค้าปลอมส่งให้ลูกค้า ตรวจยึดผลิตภัณฑ์ยาสีฟันปลอม ยี่ห้อเทพไทย จำนวน 36 หลอด และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยี่ห้ออื่น ๆ ที่ต้องสงสัยว่า ปลอม จำนวน 21 รายการ
2. บ้านเลขที่ 234 หรือ 70/70 หมู่บ้านนุชเวศน์ ซอยอ่อนนุช 70/1 แขวงประเวศ เขตประเวศกรุงเทพฯ ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ต้องสงสัยว่าปลอม รวม 8 รายการ และกระเป๋าแบรนด์เนมปลอมพร้อมกล่องบรรจุภัณฑ์ จำนวน 3 รายการ ดังนี้
จากการสืบสวนขยายผลพบว่า สินค้าปลอมดังกล่าวส่งมาจากโกดังเก็บสินค้าในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ต่อมาวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 จึงได้ร่วมกับ อย. นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้น บริษัท เอ็มเอ๊กซ์ โลจิสติกส์ จำกัด เลขที่ 95/8 หมู่ที่ 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ต้องสงสัยว่าปลอม รวม 16 รายการ, ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 จำนวน 14 รายการ, ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 จำนวน 1 รายการ, ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 จำนวน 1 รายการ, ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สมุนไพร พ.ศ.2562 จำนวน 2 รายการ รวมตรวจค้นทั้งสิ้น 3 จุดพร้อมทั้งตรวจยึดสินค้าปลอม ดังนี้
1.ยาสีฟันปลอมยี่ห้อเทพไทย 36 หลอด
2.ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่นที่ต้องสงสัยว่าปลอม ตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 จำนวน 45 รายการ
3.ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 จำนวน 14 รายการ
4.ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 จำนวน 1 รายการ,
5.ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 จำนวน 1 รายการ
6.ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สมุนไพร พ.ศ.2562 จำนวน 2 รายการ และกระเป๋าถือแบรนด์เนม 67 ใบ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 14,000,000 บาท ในส่วนผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดอื่นฯ อยู่ระหว่างติดต่อตัวแทนของแต่ละบริษัทเพื่อมายืนยันเพิ่มเติม
รับทำมาแล้วกว่า 3 เดือน
จากการตรวจสอบเครือข่ายดังกล่าวพบว่า มี Mr.Zhong หรือ นายจง (สงวนนามสกุล) สัญชาติจีน เป็นผู้ดูแล เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายจง ในความผิดฐาน "ขายเครื่องสำอางปลอมตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 และมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534" โดยนายจงให้การปฏิเสธ แต่รับว่าตนมีหน้าที่นำสินค้าปลอมมาแพ็ค และจัดส่งให้ลูกค้าตามออเดอร์โดยมีนายทุนชาวจีนเป็นผู้สั่งการ โดยได้รับค่าจ้างออเดอร์ละ 7-8 บาท เฉลี่ยวันละ 500-1,000 ออเดอร์
นายจง รับว่า ทำมาแล้วประมาณ 3 เดือน ในส่วนผู้ต้องหารายอื่นอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลต่อไป
กระทำความผิดมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับเบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ฐาน "ขายเครื่องสำอางปลอม" ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ฐาน "มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมฯ" ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภก.วีระชัย รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ อย. ขอขอบคุณตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ที่สืบสวน ขยายผล จนสามารถจับกุมผู้ค้า ตรวจยึดผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายได้จำนวนมาก
ขอย้ำเตือนประชาชนว่า ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ จะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนจำหน่าย โดยสามารถดูได้ที่ฉลากผลิตภัณฑ์ หรือที่บรรจุภัณฑ์ ควรซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอน
แนะซื้อสินค้าออนไลน์ถูกวิธี
กรณีซื้อออนไลน์ให้ซื้อจาก ร้านค้าออนไลน์ที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะยาไม่สามารถซื้อออนไลน์ได้ ต้องซื้อจากร้านยา หรือได้รับการตรวจวินิจฉัยและจ่ายจากแพทย์ในสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชนเท่านั้น
ทั้งนี้ ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ได้ที่ www.fda.moph.go.th และ Line@FDAThai หากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยหรือไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือผ่าน Email: [email protected] Line@FDAThai, Facebook: FDAThai หรือ ตู้ปณ.1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังและไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มาใช้ อย่าหลงซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านสื่อออนไลน์ เพียงเพราะเห็นแก่ราคาสินค้าที่ถูกกว่าท้องตลาดและหลงเชื่อการโฆษณาเพราะอาจส่งผลกระทบกับทางร่างกายและไม่ได้ผลลัพธ์ที่แท้จริง
ขอเน้นย้ำกับผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางแพลตฟอร์ม อี-มาร์เก็ตเพลส และทางสื่อออนไลน์ทั้งหลายว่า อย่านำสินค้าที่ผิดกฎหมายมาจำหน่ายหรือหลอกลวงผู้บริโภคโดยเด็ดขาด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ ผู้ที่พบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา