นายแพทย์ฐากูร วิริยะชัย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านกุมารแพทย์โรคติดเชื้อในเด็ก กลุ่มโรงพยาบาลในเครือเกษมราษฎร์ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลได้ดำเนินการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก เนื่องจากเป็นโรคที่ต้องป้องกัน เพราะอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้
ทั้งนี้ ไข้เลือดออก เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี 4 สายพันธุ์ มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ยุงลายกัดคนที่เป็นโรคไข้เลือดออกก่อนแล้วจึงไปกัดคนที่อยู่ใกล้เคียงก็จะเป็นการแพร่เชื้อให้คนอื่นต่อไป
ดังนั้น จึงไม่มีทางรู้เลยว่ายุงที่กัดเราเป็นพาหะไข้เลือดออกหรือไม่ ทั้งผู้ใหญ่หรือเด็กสามารถติดเชื้อไข้เลือดออกได้ทั้งหมด ซึ่งอาการแสดงของโรคไข้เลือดออกในเด็ก มีตั้งแต่ ไม่มีอาการผิดปกติ ไปจนถึงมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน
ผู้ติดเชื้อไข้เลือดออกหากไข้สูงนานตั้งแต่ 3-7 วัน จะอยู่ในระยะวิกฤติ อาจเกิดภาวะช็อก หมดสติ หัวใจหยุดเต้น และอาจเสียชีวิตได้ อีกทั้ง เชื้อไวรัสเดงกีทั้ง 4 สายพันธุ์ และสามารถติดเชื้อไวรัสเดงกีได้มากกว่า 1 ครั้ง
กรณีติดเชื้อครั้งที่ 2 อาจมีอาการรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ผู้ปกครองจึงต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันไม่ใช่แค่ป้องกันแค่ลูกหรือเด็กเล็ก แต่ต้องดูแลและป้องกันทั้งครอบครัว ไม่เพียงแค่ระวังยุงกัด ควรจะเก็บบ้านไม่ให้มีซอกมืด ดูแลบริเวณบ้านไม่ให้มีน้ำขัง
รวมไปถึงการป้องกันอย่างการเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งสามารถช่วยลดความรุนแรงและการนอนโรงพยาบาลได้
“การฉีดวัคซีน เป็นการสร้างเกราะป้องกันเพิ่มขึ้นอีกขั้นที่สามารถทำควบคู่กันไปกับการที่เราดูแลสภาพแวดล้อม ไม่นำตัวเองไปอยู่ในที่ๆ เสี่ยง แต่ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ยุงกัดไม่ได้ การเสริมภูมิคุ้มกันตัวเองอย่างการฉีดวัคซีนจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกของการป้องกัน”