จี้ บอร์ดประกันสังคม ปฏิรูประบบ ทุกคนต้องเข้าถึง-ทุกสิทธิต้องเป็นธรรม

11 มี.ค. 2568 | 10:50 น.
อัปเดตล่าสุด :11 มี.ค. 2568 | 10:56 น.

เครือข่าย We Fair ยื่น 5 ข้อเสนอบอร์ดประกันสังคม เร่งแก้ปัญหาเชิงระบบ พร้อมผลักดันปรับโครงสร้างบริหารให้โปร่งใส-ใช้สูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพใหม่ให้สอดคล้องค่าครองชีพ หวังสร้างหลักประกันที่มั่นคงสำหรับผู้ใช้แรงงานทุกกลุ่ม

11 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) ชุดที่ 14 ครั้งที่ 5/2568 โดยมีนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ดประกันสังคม เป็นประธานการประชุมมีวาระการประชุมเพื่อพิจารณาการปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีการคำนวณเงินบำนาญชราภาพใหม่ของผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39

รวมถึงการพิจารณาร่างประกาศคณะกรรมการประกันสังคม เรื่อง การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์การลงทุนนอกตลาดและการลงทุนในกิจการร่วมลงทุนที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นอกตลาด รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนในด้านต่าง ๆ 

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการประชุมนายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการเครือขายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม (เครือข่าย We Fair) พร้อมด้วยผู้ประกันตนหลายสิบคนมารวมตัวกันที่หน้าอาคารอเนกประสงค์ สำนักงานประกันสังคมเพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องต่อบอร์ดประกันสังคมในการปฏิรูประบบการดำเนินงาน โดยมี นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการประกันสังคม ฝ่ายผู้ประกันตน ในบอร์ดประกันสังคม เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว 

สำหรับข้อเสนอที่เครือข่ายรัฐสวัสดิการเพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรมยื่นต่อคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพ (บอร์ดสปส.) โดยเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบประกันสังคมรวม 5 ข้อ ประกอบด้วย 

1. ปฏิรูปเกณฑ์คำนวณบำนาญชราภาพให้เป็นธรรม โดยปรับปรุงสูตรคำนวณให้เหมาะสมกับค่าครองชีพ รวมถึงการพิจารณาการเพิ่มอัตราส่วนเงินสมทบของฝ่ายนายจ้างและภาครัฐ เพื่อให้เงินบำนาญชราภาพมีความมั่นคงและยั่งยืน 

2. ปฏิรูประบบประกันสังคมพื้นฐานถ้วนหน้าเพื่อขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมประชากรในวัยทำงาน อายุ 18-20 ปี ทุกคน โดยรัฐเป็นผู้สมทบให้กับสำนักงานประกันสังคมซึ่งเป็นมาตรการสนับสนุนให้แรงงานทุกกลุ่มเข้าสู่ระบบประกันสังคม ไม่ว่าจะเป็นแรงงานอิสระ แรงงานแพลตฟอร์ม แรงงานในเศรษฐกิจภาคนอกระบบ 

จี้ บอร์ดประกันสังคม ปฏิรูประบบ ทุกคนต้องเข้าถึง-ทุกสิทธิต้องเป็นธรรม

3. ปฏิรูปโครงสร้างกลไกการบริหารให้เป็นอิสระ เพื่อการบริหารจัดการที่มีธรรมาภิบาล ตรวจสอบได้และมีประสิทธิภาพ สามารถตั้งผู้เชี่ยวชาญเพื่อการบริหารจัดการ การพัฒนาระบบบริการ การปรับปรุงการบริหารเงินลงทุนให้โปร่งใสมีประสิทธิภาพ การเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานให้ผู้ประกันตนและสาธารณชนรับรู้ 

4. ปฏิรูปสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนทุกมาตรา 7 กรณี ได้แก่ 

  • คลอดบุตร : เงินค่าคลอดและสิทธิวันลา
  • สงเคราะห์บุตร: เงินอุดหนุนและขยายช่วงอายุ
  • เจ็บป่วย : สิทธิการรักษาและค่าทันตกรรม
  • ทุพพลภาพ (พิการ) : เงินทดแทนและการบริการกายอุปกรณ์ 
  • ว่างงาน : เพิ่มเงินชดเชยและขยายช่วงเวลารับเงิน
  • ชราภาพ: เงินบำนาญและโครงสร้างเงินสมทบ
  • เสียชีวิต : ค่าทำศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัว 

สิทธิประโยชน์เหล่านี้ควรพิจารณาปรับเพิ่มให้เหมาะสมกับสภานการณ์ปัจจุบันโดยคำนึงถึงค่าครองชีพ การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน และความมั่นคงทางสังคมของผู้ประกันตน

จี้ บอร์ดประกันสังคม ปฏิรูประบบ ทุกคนต้องเข้าถึง-ทุกสิทธิต้องเป็นธรรม

5. ปฏิรูประบบสิทธิสุขภาพประกันสังคมให้มีมาตรฐานทัดเทียมระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

ทั้งนี้ การบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานควรดำเนินการโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบบเดียว เพื่อสร้างความเท่าเทียมทางสังคมและสร้างความสมานฉันท์ของคนทำงาน ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนเลือกใช้สิทธิ สปสช. ควรนำเงินสมทบสิทธิบำนาญชราภาพได้ 

 

จี้ บอร์ดประกันสังคม ปฏิรูประบบ ทุกคนต้องเข้าถึง-ทุกสิทธิต้องเป็นธรรม