อย่าหาทำ! อุดฟันเอง เสี่ยงติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นต้องถอนฟัน

30 ม.ค. 2568 | 05:06 น.

กรมการแพทย์ โดยสถาบันทันตกรรม เตือนอุดฟันเอง (DIY) พบกรณีผู้ป่วยรายหนึ่งใช้วัสดุสั่งซื้อทางออนไลน์ ส่งผลให้ฟันติดเชื้อ ปวดขั้นรุนแรง ถึงขั้นต้องถอนฟัน

นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า วัสดุอุดฟันที่มีจำหน่ายอย่างแพร่หลายผ่านช่องทางออนไลน์ในขณะนี้ ไม่ได้เป็นวัสดุที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน อีกทั้งยังไม่ได้เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ไม่มีการระบุส่วนประกอบของวัสดุอุดฟัน เสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากความเป็นพิษของสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบ อีกทั้งยังสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองหรือปฏิกิริยาการแพ้ในช่องปากได้

อย่าหาทำ! อุดฟันเอง เสี่ยงติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นต้องถอนฟัน

การใช้วัสดุอุดฟันด้วยตัวเอง โดยปั้นเป็นก้อนแล้วอุดไปในโพรงฟันที่ผุ ไม่ได้เป็นการรักษาฟันผุอย่างถูกวิธี เนื่องจากไม่ได้มีการกำจัดเชื้อโรคและเนื้อฟันที่ผุด้วยอุปกรณ์ปลอดเชื้อที่มีมาตรฐาน ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการติดเชื้อและการอักเสบในโพรงฟัน นำไปลุกลามไปสู่การสูญเสียฟันได้

นอกจากนี้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำปฏิกิริยากับเนื้อฟัน ทำให้ฟันอ่อนแอหรือเสียหายมากขึ้น อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่วัสดุอุดฟันที่ไม่ได้คุณภาพจะหลุดออกมาและอาจกลืนลงคอ ซึ่งเสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจ

ทันตแพทย์หญิง ดร.สุมนา โพธิ์ศรีทอง ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กล่าวว่า การอุดฟัน ควรได้รับการรักษาโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างถูกวิธี ซึ่งการอุดฟัน เป็นวิธีการรักษาโดยการบูรณะฟันที่มีการสูญเสียเนื้อฟันให้กลับสู่สภาพปกติ

อย่าหาทำ! อุดฟันเอง เสี่ยงติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นต้องถอนฟัน

โดยทันตแพทย์จะทำการกรอแต่งโพรงฟันและกำจัดเนื้อฟันที่ผุออกเพื่อกำจัดเชื้อโรค แล้วอุดทดแทนด้วยวัสดุอุดฟันที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ซึ่งปลอดภัยสำหรับใช้ในช่องปาก ไม่ทำอันตรายกับเนื้อฟันที่เหลือ หากกรณีฟันผุลึกจนถึงโพรงประสาทฟัน จะไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการอุดฟันเพียงอย่างเดียว

เนื่องจากเชื้อโรคได้เข้าไปถึงบริเวณโพรงประสาทฟันทำให้เกิดการติดเชื้อในโพรงประสาทฟัน การรักษาจะเป็นการรักษารากฟันหรือถอนฟัน

อย่างไรก็ตาม หากมีอาการฟันผุหรือมีอาการผิดปกติในช่องปาก ควรรีบพบปรึกษาทันตแพทย์โดยทันที 
สุขภาพช่องปากเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การดูแลฟันให้สะอาดและแข็งแรงถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพช่องปาก

ควรแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันเพื่อทำความสะอาดบริเวณซอกฟันที่แปรงเข้าไม่ถึง พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากทุก ๖ เดือน

นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้รับการรับรองความปลอดภัย หากพบอาการผิดปกติ เช่น ฟันผุ ปวดฟัน หรือปัญหาอื่นในช่องปาก ควรปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เพราะสุขภาพช่องปากที่ดีถือเป็นพื้นฐานสำคัญของสุขภาพร่างกาย