สภาพอากาศวันนี้ -8 มี.ค.กทม.ปริมณฑล พายุฝนฟ้าคะนอง ระวังลูกเห็บตก

07 มี.ค. 2568 | 00:35 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศวันนี้ -12 มี.ค.68 ไทยอากาศร้อน ฟ้าหลัวกับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศวันนี้ - 12 มีนาคม พ.ศ. 2568 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า)ในช่วงวันที่ 6 - 8 มี.ค. ประเทศไทยตอนบน มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศวันนี้ -12 มี.ค.68 ไทยอากาศร้อน ฟ้าหลัวกับมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 9 – 12 มี.ค. ประเทศไทยตอนบน มีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางแห่ง 

 

ในช่วงวันที่ 6 - 7 มี.ค. ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังอ่อนที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้เริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 

ส่วนในช่วงวันที่ 8 – 12 มี.ค. ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร และอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

ข้อควรระวัง
วันที่ 6 - 8 มี.ค. 68

  • ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง
  • สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย 

วันที่ 9 – 12 มี.ค. 68

  • ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดและควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน
  • สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 6 – 12 มีนาคม พ.ศ. 2568

ภาคเหนือ
วันที่ 6 - 8 มี.ค. 68

  • พายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 40 องศาเซลเซียส

วันที่ 9 – 12 มี.ค. 68

  • มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วันที่ 6 - 8 มี.ค. 68

  • พายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง หลังจากนั้นอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 - 36 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.

วันที่ 9 – 12 มี.ค. 68

  • อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 - 40 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง

ภาคกลาง
วันที่ 9 – 12 มี.ค. 68

  • อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 – 40 องศาเซลเซียส  ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 15 กม./ชม

วันที่ 7 - 8 มี.ค. 68

  • มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
วันที่ 6 – 8 มี.ค. 68

  • พายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรส่วน

วันที่ 9 – 12 มี.ค. 68

  • อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน  โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
วันที่ 6 – 7 มี.ค. 68

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

วันที่ 8 – 12 มี.ค. 

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 36 องศาเซลเซียส 
  • ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
  • ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
วันที่ 6 – 7 มี.ค. 68

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

วันที่ 8 – 12 มี.ค. 68

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 36 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง

กรุงเทพและปริมณฑล
วันที่ 7 – 8 มี.ค. 68

  • พายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม

วันที่ 9 – 12 มี.ค.

  • อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.