นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเร่งรัดมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทาง 30 ว่า จากกรณีรถโดยสารไม่ประจำทางประสบอุบัติเหตุบน ทล.304 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นเหตุให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บ 31 ราย นั้น ที่ประชุมได้มอบหมายกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) นำบทเรียนจากอุบัติเหตุที่ผ่านมากำหนดมาตรการและออกประกาศบังคับใช้โดยด่วน
ทั้งนี้เบื้องต้นกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) รายงานว่าจากการตรวจสอบพบสาเหตุหลักเกิดจากพนักงานขับรถใช้ความเร็วไม่เหมาะสมกับเส้นทางลงเขาที่เป็นทางโค้งต่อเนื่อง ส่งผลให้รถเสียหลักเฉี่ยวชนกับแผงกั้นแบ่งช่องทางจราจรด้านซ้าย (แบริเออร์) และพลิกตะแคง โดยไม่พบร่องรอยการเบรก
นอกจากนี้ในปัจจุบันทั่วประเทศมีรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่จำประทาง จำนวน 2 ชั้น ประมาณ 7,000 คัน ขณะนี้ได้มีการยกเลิกการจดทะเบียนรถโดยสาร 2 ชั้นแล้ว แต่ตามกฎหมายไม่ได้ครอบคลุม ทำให้ไม่สามารถมีผลบังคับใช้ย้อนหลังได้ เบื้องต้นได้มอบหมายให้กรมฯไปตรวจสอบและดำเนินการกับผู้ประกอบการต่อไป
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ได้มีข้อสั่งการให้นำเคสอุบัติเหตุดังกล่าวมาเป็นกรณีนำร่องในการแก้ไขปัญหาสำหรับการกำหนด Zoning โดยออกเป็นหลักเกณฑ์มาตรฐานเพื่อบังคับใช้กับรถโดยสารไม่ประจำทางก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ รวมถึงการออกประกาศปรับปรุงระเบียบมาตรฐานรถโดยสารไม่ประจำทางให้เป็นมาตรฐานเดียวกับรถโดยสารประจำทาง เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน
นอกจากนี้ให้กรมทางหลวง (ทล.) ร่วมกับ ขบ. สำรวจพื้นที่จุดเสี่ยงทั่วประเทศ รวมถึงพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างจุดพักรถเพิ่มเติม โดยจัดทำเป็นแผนดำเนินงาน (Timeline) เสนอต่อกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเป็นวาระเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาอย่างครอบคลุมและเป็นรูปธรรมภายใน 30 วันก่อน เพื่อรองรับเทศกาลสงกรานต์ 2568
“ขอเน้นย้ำให้ ขบ. ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยบูรณาการ่วมกับกรมทางหลวง และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมจัดทำแผนดำเนินงานและเร่งออกประกาศบังคับใช้มาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในลักษณะนี้ซ้ำอีก เพื่อยกระดับความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุจากรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทางอย่างยั่งยืนต่อไป” นายสุรพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ขบ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมหารือวิเคราะห์อุบัติเหตุและกำหนดมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะร่วมกัน โดยที่ประชุมได้วางแนวทางและกำหนดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุจากรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทาง และจุดเสี่ยงบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนี้
1. มิติด้านยานพาหนะ กำหนดเขตพื้นที่ (Zoning) รถโดยสาร 2 ชั้นไม่ประจำทาง ที่วิ่งในเส้นทางที่มีความเสี่ยงและมีข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง รวมทั้งศึกษายกระดับ GPS ใช้งานในเชิงป้องกันสื่อสาร 2 ทาง โดยสามารถแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในจุดที่มีความเสี่ยงและเกิดอุบัติเหตุ การจัดทำ Safety Ratings รถโดยสารสาธารณะ และการเร่งรัดแผน/มาตรการด้านความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะให้มีความปลอดภัยทุกมิติ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 4 เดือน
2. มิติด้านผู้ขับขี่ เพิ่มความเข้มข้นหลักสูตรสำหรับผู้ขับรถบริเวณที่มีทางลาดชัน เช่น การใช้เกียร์ การตรวจสอบมาตรวัดแรงดันลม เป็นต้น
3. มิติด้านถนนและสิ่งแวดล้อม ให้ติดตั้งป้ายเตือนจุดเสี่ยง (Black Spot) ป้ายแนะนำการขับรถลงเขาให้ใช้เกียร์ 2 เท่านั้น ป้ายเตือนรถโดยสารให้เข้าจุดลงเวลารถโดยสาร และป้ายเตือนล่วงหน้าก่อนถึงช่องหยุดรถฉุกเฉิน นอกจากนี้ ให้ซ่อมแซมแบริเออร์ และเสาไฟส่องสว่างที่ชำรุดให้สามารถใช้งานได้
4. มิติด้านการบังคับใช้กฎหมาย ย้ายจุด Check Point รถโดยสารสาธารณะบน ทล.304 ไปอยู่ อีกฝั่ง เนื่องจากปัจจุบันจุดดังกล่าวเส้นทางขาขึ้น - ขาล่องอยู่ฝั่งเดียวกัน
5. มิติด้านการประชาสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการขนส่งเข้าจุดพักรถโดยสารตามข้อบังคับพนักงานจราจรจังหวัดปราจีนบุรี