วิเคราะห์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ประจำวันนี้(12ก.พ.68) ณ เวลา 08.00น. จากระบบติดตาม PM 2.5 ของ GISDA แบ่งตามระดับความรุนแรงของปริมาณฝุ่น ดังนี้
พื้นที่สีแดง
คุณภาพอากาศอันตรายต่อสุขภาพ (มากกว่า 90.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) - รวม 15 จังหวัด
1. กรุงเทพมหานคร (129.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
2. สมุทรสาคร (126.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
3. สมุทรปราการ (124.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
4. นนทบุรี (119.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
5. ปทุมธานี (111.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
6. สมุทรสงคราม (110.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
7. นครปฐม (108.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
8. ราชบุรี (105.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
9. เพชรบุรี (103.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
10. ฉะเชิงเทรา (101.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
11. ชลบุรี (95.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
12. สระบุรี (95.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
13. กาญจนบุรี (94.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
14. พระนครศรีอยุธยา (93.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
15. ปราจีนบุรี (90.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
พื้นที่สีส้ม
คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (37.6-90.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) - รวม 60 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีค่าฝุ่นสูงสุด ดังนี้
พื้นที่สีเหลือง
คุณภาพอากาศปานกลาง (ค่าฝุ่น PM 2.5 ระหว่าง 25.1-37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) มีทั้งหมด 7 จังหวัด ได้แก่
1. พังงา (34.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
2. ภูเก็ต (34.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
3. กระบี่ (33.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
4. ระนอง (33.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
5. ลำพูน (32.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
6. อำนาจเจริญ (31.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
7. นครศรีธรรมราช (30.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
พื้นที่สีเขียว
อากาศดี (0-37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) - รวม 2 จังหวัด
1. เชียงใหม่ (24.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
2. แม่ฮ่องสอน (22.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)
การวิเคราะห์สถานการณ์:
1. พื้นที่วิกฤต: กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอย่างมาก โดยเฉพาะในเขตบางคอแหลมและบางรัก ที่มีค่าสูงถึง 137.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
2. การกระจายตัว: ปัญหาฝุ่นพบมากในภาคกลางและปริมณฑล โดยค่าฝุ่นจะค่อยๆ ลดลงเมื่อห่างจากกรุงเทพฯ ออกไป
3. พื้นที่ปลอดภัย: มีเพียง 2 จังหวัดในภาคเหนือที่มีค่าฝุ่นอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยตามมาตรฐาน WHO
ข้อเสนอแนะ:
1. ประชาชนในพื้นที่สีแดงและสีส้มควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง
2. สวมใส่หน้ากาก N95 เมื่อต้องออกนอกอาคาร
3. ผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสมลพิษภายนอกอาคาร
4. ติดตามรายงานคุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง