หน้าร้อนปี 2568 กรมอุตุฯเตรียมประกาศฤดูร้อนวันที่ 28 ก.พ.นี้

21 ก.พ. 2568 | 14:49 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.พ. 2568 | 15:21 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา เตรียมประกาศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนวันที่ 28 ก.พ.68 ย้ำหน้าร้อนปีนี้ลานีญากำลังอ่อน ไม่ร้อนเท่าปีที่ผ่านมา แต่ฝนจะมากกว่าปกติ

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา ได้เผยว่าประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน 2568 ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 และจะสิ้นสุดช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2568 โดยในปีนี้จะเป็นปีลานีญากำลังอ่อน คาดไม่ร้อนเท่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ปริมาณฝนจะมากกว่าปกติร้อยละ 10-20

หน้าร้อนปี 2568 กรมอุตุฯเตรียมประกาศฤดูร้อนวันที่ 28 ก.พ.นี้

ดร.สุกันยาณี  ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า การเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทยในปี 2568 จะมีเกณฑ์พิจารณา 2 องค์ประกอบคือ

  1. อุณหภูมิสูงสุดบริเวณประเทศไทยตอนบน (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาค ตะวันออก) วัดได้ตั้งแต่ 35.0 องศาเซลเซียส ขึ้นไป มีมากกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 
  2. ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ลมหนาว) ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนเปลี่ยนเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้ หรือลมฝ่ายใต้พัดปกคลุมแทน โดยเกณฑ์อากาศร้อนจะใช้อุณหภูมิสูงสุดประจำวัน (อากาศร้อน อุณหภูมิตั้งแต่ 35.0-39.9  องศาเซลเซียส และอากาศร้อนจัด อุณหภูมิตั้งแต่ 40.0  องศาเซลเซียส ) 

 

สำหรับปีนี้ฤดูร้อนของประเทศไทยจะเริ่มขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 และจะสิ้นสุดช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2568 อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 35-36 องศาเซลเซียส หากเทียบกับค่าปกติ (35.4 องศาเซลเซียส) 

ดร.สุกันยาณี กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถิติที่กรมอุตุนิยมวิทยารวบรวมมาพบว่าอุณหภูมิในปีนี้จะไม่สูงเท่าปีที่แล้ว โดยจะเป็นปีที่มีปรากฏการณ์ลานีญากำลังอ่อน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงที่อากาศร้อนที่สุดมีโอกาสที่อุณหภูมิจะสูงกว่า 42 องศาเซลเซียส จำนวน 14 จังหวัด ได้แก่ 

  1. แม่ฮ่องสอน
  2. ตาก
  3. เชียงใหม่
  4. ลำพูน
  5. ลำปาง
  6. อุตรดิตถ์
  7. สุโขทัย
  8. พิษณุโลก
  9. เลย
  10. หนองคาย
  11. อุดรธานี
  12. หนองบัวลำภู
  13. ขอนแก่น
  14. ชัยภูมิ

 

นอกจากนั้นแล้วเป็นช่วงที่จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้เป็นระยะ ขอให้ติดตามข่าวสารที่กรมฯ จะแจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้า สำหรับปริมาณฝนคาดว่ามากกว่าค่าปกติร้อยละ 10-20 แต่ฝนที่ตกในช่วงฤดูร้อนจะเป็นฝนที่ตกไม่นานและครอบคลุมพื้นที่ไม่กว้าง แนะนำให้สำรองน้ำและใช้อย่างประหยัด 
 

อนึ่งสภาพอากาศในช่วงสัปดาห์นี้เป็นต้นไป ลักษณะอากาศประเทศไทยจะเริ่มมีความแปรปรวนมากขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดูกาล ลมเริ่มเปลี่ยนทิศทาง เช้าอากาศเย็น กลางวันอากาศร้อน ต้องติดตามและเฝ้าระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและเตรียมพร้อมรับมือ

 

โดยในช่วงวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์นี้ คาดว่ามวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุม ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากเมียนมาเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน จึงทำให้เกิดลักษณะอากาศที่แปรปรวนขึ้น โดยจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 

 

ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังค่อนข้างแรง บริเวณทีมีฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ดังนั้น ขอให้ชาวเรือระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ไทยอากาศแปรปรวน ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง