กยศ. เตือน 4 แสนราย ตั้งใจเบี้ยวหนี้ เร่งติดต่อด่วน ก่อนฟ้องดำเนินคดี

08 ก.พ. 2568 | 18:06 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.พ. 2568 | 18:09 น.

กยศ. เตือน 4 แสนราย มีเงินฝาก-รายได้สูง ตั้งใจเบี้ยวจ่ายหนี้ เร่งติดต่อปรับโครงสร้างหนี้ด่วน ก่อนฟ้องดำเนินคดี ระบุได้บอกเลิกสัญญาผู้กู้ยืมที่ผิดนัดชำระหนี้แล้วกว่า 3.1 หมื่นราย มูลหนี้กว่า 2.8 พันล้านบาท

ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กยศ. ได้ตรวจพบว่ามีกลุ่มผู้กู้ยืมที่ผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งเป็นผู้มีความสามารถในการชำระหนี้ โดยเป็นผู้มีเงินฝากหรือมีรายได้สูงประมาณ 400,000 ราย หากผู้กู้ยืมกลุ่มนี้ไม่ติดต่อชำระหนี้หรือทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ กยศ. ก็จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีและสืบทรัพย์บังคับคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา

นอกจากนี้ กยศ. ได้มีการบอกเลิกสัญญาผู้กู้ยืมเนื่องจากไม่ชำระเงินคืนตามสัญญา และกำลังจะเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องดำเนินคดี ประมาณ 31,000 ราย จำนวนทุนทรัพย์กว่า 2,800 ล้านบาท

จึงขอแนะนำให้ผู้กู้ยืมมาทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับ กยศ. เพื่อขยายระยะเวลาผ่อนชำระอีก 15 ปี โดยชำระเงินงวดสุดท้ายได้ถึงอายุ 65 ปี และเมื่อผู้กู้ยืมชำระหนี้งวดสุดท้ายเสร็จสิ้น กยศ. จะให้ส่วนลดเบี้ยปรับเดิมที่ตั้งพักไว้ทั้งหมด 100%

“การปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้กู้ยืมสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน และไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหรือบังคับคดี แต่หากผู้กู้ยืมยังเพิกเฉย กยศ. มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีและสืบทรัพย์บังคับคดีต่อไป”

ผู้จัดการกองทุนฯ เปิดเผยต่อไปว่า กยศ. มีความจำเป็นต้องฟ้องร้องดำเนินคดีและสืบทรัพย์บังคับคดีตามกฎหมายกับผู้กู้ยืมที่ไม่ชำระหนี้และไม่ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐได้รับความเสียหาย เนื่องจากเงินกู้ยืมเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีของประชาชนและเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อให้โอกาสทางการศึกษากับผู้ขาดแคลนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ทั้งนี้ ยืนยันว่า ผู้กู้ยืมทุกรายมีหน้าที่ต้องชำระเงินคืนเพื่อให้เงินทุกบาทตกทอดแก่นักเรียน นักศึกษารุ่นต่อไปที่ยังรอโอกาสอีกจำนวนมาก