โควิดวันนี้ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชน ทั้งจำนวนของผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน และผู้เสียชีวิต
นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว (Sunt Srianthumrong) โดยมีข้อความว่า
Covid-19: Update ภาพรวมตัวเลข เมื่อใกล้ Endemic (โรคประจำถิ่น) ประเด็นอะไรบ้างที่ยังน่าติดตาม ไทย จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา สถานการณ์จริงของไทยเป็นอย่างไรกันแน่
จีน:
- ชนะ Omicron (โอมิครอน) เรียบร้อย เข้าปลาย Wave โดยมี %Increase ของ New Case ลดลงต่ำกว่า 0.1% ในวันนี้ ถือว่าจบแล้ว
- ผู้ติดเชื้อแบบมีอาการเหลือวันละร้อยต้นๆ รัฐบาลจีนเก็บอีกนิดหน่อยก็จะลงศูนย์ ส่วนแบบไม่มีอาการที่มากกว่าเป็น 10 - 20 เท่าก็จะลงศูนย์เช่นกัน
- การ Lockdown ได้ผลดีพอๆกับช่วงอู่ฮั่น แม้ว่า Omicron จะเก่งกว่าไวรัสเดิมมากก็ตาม
- คลาย Lockdown ได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีอะไรน่าห่วง
- น่าจะยึดนโยบาย Zero Covid ปิดประเทศต่ออีก 1-2 ปี
- ไม่น่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนมาไทย อย่างน้อยก็ถึงต้นปี 2567
ไต้หวัน: ประชากร 23.9 ล้านคน
- กำลังอยู่ที่จุดสูงสุดของ Wave สัปดาห์หน้าจะเริ่มเป็นขาลง สถานการณ์จะค่อยๆดีขึ้น
- อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 0.2% - 0.3% สูงกว่าปกติที่ควรจะอยู่ที่ 0.05% สำหรับระดับวัคซีน Booster 60% น่าจะเกิดจากรายงานผู้ติดเชื้อต่ำกว่าความเป็นจริง
- ผู้ติดเชื้อรายงานสูงสุดอยู่ที่ราวๆ 90,000 กว่าคน แต่เป็นไปได้ว่ามีผู้ติดเชื้อจริงที่ตรวจ ATK แต่ไม่ได้รายงานจำนวนมาก ถ้ารวมหมดอาจจะ 3-4 แสนคนต่อวัน
- ผู้เสียชีวิตมากกว่าวันละ 100 คนแล้ว น่าจะไปสูงสุดช่วงกลาง มิ.ย. ที่ราวๆ 160 - 200 คนต่อวัน
- ผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวัน ที่รายงานน่าจะลงเหลือระดับ 20,000 - 30,000 คนช่วง 1 ก.ค.
- ผู้ติดเชื้อรวมน่าจะถึง 50% ของประชากรในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
- ไต้หวันน่าจะเปิดประเทศได้ ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าเช่นกัน
ญี่ปุ่น: ประชากร 125.7 ล้านคน
- ติดเชื้อเหลือวันละ 30,000 - 40,000 คน
- เสียชีวิตเหลือวันละ 50 คน
- เปิดประเทศได้แน่นอน ไม่น่ามีปัญหา
ยุโรป อเมริกา:
- อังกฤษ ถอดหน้ากากหมดแล้ว เสียชีวิตเหลือวันละ 60 คน ติดเชื้อรายงานวันละไม่ถึงหมื่นต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ของจริงน่าจะประมาณ 60,000 - 120,000
- USA ถอดหน้ากากหมดแล้ว เสียชีวิตเหลือวันละ 300 คน ติดเชื้อรายงานวันละแสนกว่า แต่น่าจะต่ำกว่าความเป็นจริง ของจริงมีโอกาสสูงถึง 300,000
- เยอรมนี เสียชีวิตเหลือวันละ 90 คน ติดเชื้อรายงานวันละ 4-5 หมื่นต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ของจริงน่าจะประมาณ 90,000 - 180,000
- ฝรั่งเศส เสียชีวิตเหลือวันละ 50 คน ติดเชื้อรายงานวันละ 2 -3 หมื่นต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ของจริงน่าจะประมาณ 50,000 - 100,000
- ที่นี่ ยุโรป อเมริกา เขาถือว่า Covid จบแล้ว แต่ก็ยังมีติดเชื้อและเสียชีวิตอยู่พอสมควร แต่ก็น่าจะลดลงเรื่อยๆ ถ้าวัคซีน Gen 2 มาคงดีกว่านี้อีก
ประเทศไทย:
- สถานการณ์รายงานวันนี้ เราดีกว่าในยุโรปและอเมริกา เพียงแค่การ์ดเรายังสูงกว่า ถ้าลดการ์ดมาใช้ชีวิตปกติ ก็อาจจะเด้งไปพอๆกัน ซึ่งก็พอไปได้
- เราเพิ่งฉีด Booster ไปได้แค่ 40% แพ้เวียดนาม 58% มาเลย์เซีย 49% กัมพูชา 54% ยุโรป 55-65% ญี่ปุ่น 58% แต่ดีกว่าอเมริกา 31% ซึ่งอเมริกาติดเชื้อกันจริงไปเกินครึ่งประเทศมันเลยจบ แต่ก็ตายเยอะ
- ตัวเลขติดเชื้อใหม่ประเทศไทย PCR รายงานอยู่ที่ 4,000 - 5,000 คนต่อวัน ATK อีก 6,000 ซึ่งรวมมาไม่ครบ ถ้านับมาให้ครบจริงๆน่าจะยังอยู่ที่ 50,000 - 70,000 คนต่อวัน
- ตัวเลขในข้อ 3 ถือว่าลดลงมามากแล้วจากช่วง Peak ที่ราวๆ 180,000 คนต่อวัน
- การเปิดเทอมทำให้ตัวเลขการติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ไม่รุนแรงมาก
- ถ้าผลจากเปิดเทอมไม่รุนแรงเกินไป จะเข้าสู่ขาลงต่อและเข้าสู่ Endemic ได้ตามเป้าหมาย
- สถิติในวันที่มีผู้เสียชีวิต 41 คน มีผู้เสียชีวิตที่ฉีดวัคซีนครบถึง Booster แค่ 2 คน และเป็นกลุ่ม 608 ที่เหลือ 39 คนไม่ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบ
- ตัวเลขผู้เสียชีวิตต่อวันในกลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนครบ น่าจะวันละไม่ถึง 5 คนมาสักพักนึงแล้ว
- จากข้อ 7,8 Covid แทบจะจบลงแล้วสำหรับคนไทยที่ฉีดวัคซีนครบ
- Covid จะยังไม่จบสำหรับคนที่ไม่ฉีดวัคซีน และคนที่ไม่ฉีด Booster
- เด็กต่ำกว่า 5 ขวบที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน อย่าเพิ่งรีบออกจากบ้าน วัคซีนกำลังมาแล้ว หรือรอให้ผู้ใหญ่ที่ไม่ฉีดวัคซีนติดเชื้อให้หมดก่อน
- เราอาจจะประกาศ Endemic ได้เดือนหน้านี้เลย แต่ช่วงที่ปลอดภัยจริงๆสำหรับคนทุกกลุ่มน่าจะเป็นอย่างน้อยหลัง 1 สิงหาคม เป็นต้นไป
- ไม่แนะนำเด็ดขาดให้รีบถอดหน้ากาก แต่ถ้ารัฐบาลให้ถอดก็ปล่อยเขาไป เราใส่เหมือนเดิม จนกว่าจะติดเชื้อกันเกิน 50-70% ของประเทศ คนรักสุขภาพค่อยลดการ์ดลง
สุดท้าย คนที่ยังต้องห่วงใย:
คนกลุ่มสุดท้ายที่ผมห่วงจริงๆคือ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ซึ่งยังไม่มีวัคซีน และกำลังเริ่มไปโรงเรียนกันแล้ว แม้จะมีอัตราการเสียชีวิตที่ต่ำ แต่ก็มีการเสียชีวิตและอาการรุนแรงอยู่บ้างพอสมควร
โดยส่วนตัวอยากให้สังคมระมัดระวังและช่วยกันป้องกันเด็กกลุ่มนี้อย่างเต็มที่ไปอีกสักพักใหญ่ จนกว่าตัวเลข Booster จะถึง 60% และผู้ติดเชื้อสะสมจริงๆข้าม 50% ของประชากร
ซึ่งประเมินคร่าวๆน่าจะอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน หรืออาจจะหลังจากนั้นนิดหน่อย ขอให้พ่อแม่ใจเย็น อย่าเพิ่งรีบเอาลูกออกไปเสี่ยงอะไรที่ไม่จำเป็น