โควิด19วันนี้ มีผู้ติดเชื้อจริงทั่วประเทศกว่า 1.2-1.3 แสนรายต่อวัน

30 เม.ย. 2565 | 08:03 น.
อัปเดตล่าสุด :30 เม.ย. 2565 | 15:03 น.
886

โควิด19วันนี้ มีผู้ติดเชื้อจริงทั่วประเทศกว่า 1.2-1.3 แสนรายต่อวัน อ.นิด้าเผยมีคนจำนวนมากขึ้นที่ตรวจ ATK ติดแล้วก็ไม่โทรไปไหนเลย และไปทำงาน ไปใช้ชีวิตปกติ

นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว (Sunt Srianthumrong) โดยมีข้อความว่า

 

Covid-19 (โควิด-19) : ข้อเท็จจริง 10 ประการ กับอีก 5 เกร็ด ที่คุณควรรู้เมื่อเริ่มกลับเข้า Office Onsite และเปิดประเทศแบบ Full Scale ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 2 พ.ค. ศกนี้ 

 

ควรยกการ์ดสูงแค่ไหน ควรทำตัวตามสบายสนุกสนานแค่ไหน ลองพิจารณาดูครับ แต่ละคนคงไม่เหมือนกัน

 

ข้อเท็จจริง 10 ข้อ

 

  • จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่จริงๆช่วงวันที่ 10 เม.ย. อยู่ที่ประมาณ 129,000 คนต่อวัน สอดคล้องกับผู้เสียชีวิตวันนี้ 129 คนและอัตราการการเสียชีวิตของ OMC 0.1%
  • มีคนไข้ใหม่โทรเข้าระบบเพื่อขอทำ HI หรือขอรักษาตัวเองแบบอื่นๆ ประมาณ 130,000 คนต่อวันช่วงวันที่ 18 เม.ย. และยังคงอยู่ในระดับเกือบแสนคนต่อวัน ณ วันนี้
     
  • ถ้าคุณลองเอาตัวเลขเมื่อวานนี้ ATK+ ต่อวันของแค่ 8 จังหวัดมาบวกกัน จะได้มากกว่าตัวเลข ATK+ ทั่วประเทศที่ประกาศ  Mathematic Paradox?
  • จากข้อ 3 ถ้าเอาตัวเลขของ 8 จังหวัดมาคำนวณสัดส่วนประชากร จะได้ผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศต่อวันประมาณ 120,000 -130,000 คน  
  • มีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆที่ตรวจ ATK ติดแล้วก็ไม่โทรไปไหนเลย อยู่บ้านรักษาตัวเอง 
  • มีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆที่ตรวจ ATK ติดแล้วก็ไม่โทรไปไหนเลย แล้วก็ไปทำงานไปใช้ชีวิตปกติ 
  • มีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆที่ไม่ตรวจอะไรเลย 

 

ข่าวโควิดวันนี้ผู้ติดเชื้อจริงทั่วประเทศกว่า 1.2-1.3 แสนรายต่อวัน

 

  • กทม.ฉีดวัคซีนไปไกลระดับสิงคโปร์แล้ว อัตราการตายควรจะอยู่ที่แค่ 0.05% แต่ยังตายเฉลี่ยวันละ 12.6 คน มากกว่าสิงคโปร์ถึง 6 เท่า 
  • คำนวณตามข้อ 8 จะได้ว่าผู้ติดเชื้อใหม่จริงๆ ในกทม.คือ 25,000 คนต่อวัน ไม่ใช่ 3,000 กว่าคน 
  • ประกันโควิดจะหมดอายุทั้งหมดแล้ว ตัวเลข RT-PCR จะลดลงอย่างรวดเร็วอีกมาก ให้ได้สบายใจกัน ส่วนตัวเลขจริงๆก็ตามข้อ 1-9
     

 เกร็ด 5 ข้อ

 

1. ความเสี่ยงตายของแต่ละคนเมื่อติดโควิดโดยประมาณ

 

  • อายุ 0 - 9 ปี ถ้าฉีดวัคซีน 0.002% ถ้าไม่ฉีดหรือฉีดไม่ครบ 0.02%
  • อายุ 10 - 19 ปี ถ้าฉีดวัคซีน 0.003% ถ้าไม่ฉีดหรือฉีดไม่ครบ 0.03%
  • อายุ 20 - 29 ปี ถ้าฉีดวัคซีน 0.005% ถ้าไม่ฉีดหรือฉีดไม่ครบ 0.05%
  • อายุ 30 - 39 ปี ถ้าฉีดวัคซีน 0.006% ถ้าไม่ฉีดหรือฉีดไม่ครบ 0.06%
  • อายุ 40 - 49 ปี ถ้าฉีดวัคซีน 0.02% ถ้าไม่ฉีดหรือฉีดไม่ครบ 0.2%
  • อายุ 50 - 59 ปี ถ้าฉีดวัคซีน 0.06% ถ้าไม่ฉีดหรือฉีดไม่ครบ 0.6%
  • อายุ 60 - 69 ปี ถ้าฉีดวัคซีน 0.14% ถ้าไม่ฉีดหรือฉีดไม่ครบ 1.5%
  • อายุ >70  ปี ถ้าฉีดวัคซีน 0.86% ถ้าไม่ฉีดหรือฉีดไม่ครบ 9.2%

 

2. จากข้อ 1 สำหรับคนที่ฉีดวัคซีนและไม่ใช่คนสูงวัย Omicron (โอมิครอน) จะมีฤทธิ์ระดับไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่เท่านั้น ส่วนคนที่ไม่ฉีดวัคซีน มันยังคงรุนแรงน้องๆ โควิดอู่ฮั่น

 

3. จากข้อ 1 คนไม่ฉีดวัคซีนถ้าติดโควิดจะเสี่ยงตายมากกว่าคนฉีด 10 เท่า ถ้านับรวมว่าเสี่ยงติดมากกว่าด้วยอีก 3-4 เท่า รวมๆก็เสียงตายมากกว่า 40 เท่า    

 

4. ถ้ายังช่วยกันใส่หน้ากาก คนจะตายวันละ 100 กว่าไปเรื่อยๆ  แต่ถ้าถอดหน้ากากกันหมด คนจะตายเพิ่มเป็นวันละ 300 กว่าแบบอังกฤษตอนนี้ 

 

5. คนส่วนใหญ่ 9 ใน 10 ที่ตายในข้อ 4 ก็คือคนที่ไม่ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบ
เปิดประเทศแล้ว Endemic แล้ว ก็คงต้องประเมินความเสี่ยงกันเอาเอง แต่ละคนมีความจำเป็นไม่เท่ากัน เกราะป้องกันก็ไม่เท่ากัน 

 

วิธีการปฏิบัติตัวก็ขอให้เหมาะสมกับความเสี่ยงของท่านและคนใกล้ชิด เพื่อจะได้ปลอดภัยไปด้วยกันทั้งหมด 

 

แล้วก็ต้องเน้นดูแลรักษาตัวเองกันเป็นหลักเพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของระบบสาธารณสุขอีกต่อไปโดยไม่จำเป็น เศรษฐกิจต้องเดินหน้า ชีวิตก็ต้องรอด