โควิด19ในไทยระลอก 4 ยอดผู้ติดเชื้อมีมากกว่าครึ่งหนึ่งของทุกระลอกรวมกัน
โควิด19ในไทยระลอก 4 ยอดผู้ติดเชื้อมีมากกว่าครึ่งหนึ่งของทุกระลอกรวมกัน หมอเฉลิมชัยเผยโควิดระลอกที่ 4 ผู้ติดเชื้อแตะ 2 ล้านราย รวม ATK ติดเชื้อรวม 3.5 ล้านราย
ยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงอยู่ในระดับสูงทั่วโลก และประเทศไทย
น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
โควิดระลอกที่ 4 ผู้ติดเชื้อแตะ 2 ล้านรายเป็นครั้งแรก ถ้ารวม ATK ด้วยติดเชื้อรวม 3.5 ล้านราย ทำให้รวมทุกระลอก 5.7 ล้านราย
วันนี้ 28 เมษายน 2565 ติดเชื้อแบบ PCR เพิ่มขึ้น 14,437 ราย
ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของระลอกที่ 4 หรือมกราคม 2565 แตะ 2 ล้านรายเป็นครั้งแรก คือ 2,000,573 ราย
เมื่อรวมทุกระลอก (1-4) แล้ว ติดเชื้อแบบ PCR สะสม 4,273,651 ราย
อย่างไรก็ตามไวรัสโอมิครอน (Omicron) กว่าครึ่งจะติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ ทำให้ผู้ติดเชื้อจำนวนมากไม่ได้มาตรวจแบบ PCR
ในหลายประเทศ จึงรณรงค์ให้ประชาชนตรวจด้วยตนเองที่บ้านด้วยชุด ATK
และมีการรายงานโดยนำตัวเลขผู้ติดเชื้อ ATK มาวิเคราะห์ร่วมกับ PCR เพื่อความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น
แม้ทุกประเทศจะประสบปัญหาเหมือนกันคือ มีจำนวนผู้ที่ติดเชื้อไม่แสดงอาการ จึงไม่ได้มาตรวจทั้ง PCR และ ATK อีกจำนวนมากพอสมควรก็ตาม
ซึ่งประเทศไทย ก็ได้ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวด้วย จึงทำการตรวจแบบ ATK ที่เรียกว่าผู้ติดเชื้อเข้าข่าย
และมีการรายงานผู้ติดเชื้อทั้งแบบ PCR และ ATK ให้สาธารณะรับทราบทุกวัน
ในโควิดละลอกที่ 4 มียอดรวมผู้ติดเชื้อแบบ ATK 1.5 ล้านราย
ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อของไทยทั้ง 4 ละลอก มียอดสะสมรวมกันกว่า 5.7 ล้านราย
ตามสถิติระบาดวิทยา และความรู้เรื่องไวรัสโคโรนาก่อโรคโควิด ซึ่งเหมือนกันทุกประเทศทั่วโลกนั้น
จะมีจำนวนผู้เข้ารับการตรวจหาผู้ติดเชื้อ ต่ำกว่าผู้ติดเชื้อจริงหลายเท่าตัว
จึงคาดได้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อของไทยน่าจะเกินกว่า 10 ล้านรายแล้ว ซึ่งยังน้อยกว่าประเทศที่มีประชากรใกล้เคียงกับไทยคือ อังกฤษและฝรั่งเศสที่ติดเชื้อมากกว่าไทยประมาณ 2-3 เท่าตัว
โดยที่จำนวนผู้เสียชีวิตในระลอกนี้ มีสะสม 6573 ราย และสะสมทุกระลอก 28,636 ราย
จะเห็นได้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในระลอกนี้ มีมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อทุกระลอกรวมกัน
ในขณะที่ผู้เสียชีวิตในระลอกนี้มีจำนวนเพียงหนึ่งในสี่ของจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมทุกระลอกรวมกัน
แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแพร่เชื้อของไวรัสโอมิครอนที่ติดเชื้อง่ายและกว้างขวาง แต่มีความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าไวรัสอู่ฮั่น อัลฟ่า และเดลต้าในระลอกที่ผ่านมา